7วัน-สงกรานตเปาลดอุบติเหตุ
เปิดแล้ว ‘ศปถ.’ คุมเข้ม 7 วันอันตรายสงกรานต์ ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุลงร้อยละ 5 ลั่นเข้มกฎจราจร ห้ามซิ่ง-เมาขับ สธ.จัดทีมกู้ชีพรอรับอุบัติเหตุ ห่วงยอดตายพุ่ง เหตุอั้นจากโควิด ผบ.ตร.เผยคนเริ่มทยอยฝากบ้านไว้กับตำรวจแล้ว แรงงานกัมพูชาแห่กลับ ทะลักตม.สระแก้ว
มท. 1 เปิดศูนย์ 7 วันอันตราย
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาล สงกรานต์ 2566 และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยผู้บริหาร ปภ. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้าร่วมประชุม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2566 คาดว่าปีนี้จะมีการเดินทางมากกว่าปีที่ผ่านมา ศปถ.พร้อมบูรณาการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ เพื่อให้ประชาชน เดินทางช่วงวันหยุดสงกรานต์อย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุ โดยกำหนดช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย. มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ซึ่งมีเป้าหมายลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง
ลั่นเข้มกฎจราจร-เมาขับ
ทั้งนี้ได้กำหนดมาตรการป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนที่มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งคน รถ ถนน และสภาพแวดล้อม โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายและกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงของ ผู้ขับขี่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง และคุมเข้มความปลอดภัยยานพาหนะทุกประเภท ทั้งสภาพรถ อุปกรณ์นิรภัย ความพร้อมของพนักงานขับรถ รวมถึงกวดขันรถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกินและรถบรรทุกขนาดเล็กที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะเสี่ยง พร้อมเฝ้าระวังและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยควบคู่กับการดำเนินมาตรการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนจัดหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพกู้ภัย และเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือ
ด้านนายสุทธิพงษ์กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยในการสัญจรและท่องเที่ยวทางน้ำและแหล่ง ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์คาดว่าอาจจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ตามพยากรณ์อากาศของ กรมอุตุนิยมวิทยา จึงได้แจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นไว้ด้วย และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอันตรายจากฟ้าผ่าในช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนอีกด้วย” ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าว
เตรียมถกปรับแผนรับมือทุกวัน
นายบุญธรรมกล่าวว่า ศปถ.จะประชุมร่วมกับศ.จังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ เพื่อวางมาตรการและปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ ซึ่ง ปภ. จะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ พ.ศ. 2566 และจัดทำข้อมูลสรุปในรูปแบบ Dashboard เพื่อใช้ในการประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยทางถนนที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด ทั้งนี้ ศปถ.จะได้แถลงข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ 2566 ในวันที่ 12 – 18 เม.ย. เป็นประจำทุกวันในเวลาประมาณ 11.00 น. ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM (https://www.facebook.com/DDPMNews)
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชนในการเดินทางสัญจรโดยเฉพาะทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน บูรณาการร่วมกันลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและลดอัตราจำนวนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน
สธ.จัดทีมกู้ชีพรอรับอุบัติเหตุ
วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และ พล.ต.ต.กำพล กุศลสถาพร รองผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมแถลงข่าว “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566
โดยนพ.โอภาสกล่าวว่า สธ.เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) รองรับสถานการณ์ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จัดทีมกู้ชีพระดับพื้นฐานและระดับสูงประจำเส้นทางสายหลักที่มีจุดตรวจหรือจุดบริการอยู่ห่างกัน เพื่อให้รักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว กรณีบาดเจ็บ เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตรับบริการ ร.พ.ใกล้ที่สุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 72 ชั่วโมงแรก ตามสิทธิ UCEP ใช้เทเลเมดิซีนมาปรับใช้ ให้ ร.พ.ทุกแห่งจัดเตรียมเพิ่มบุคลากรจากปกติมาขึ้นเวรมากขึ้น เตรียมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู ระบบส่งต่อ สนับสนุนเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถเป่าวัดลมหายใจได้ ประสานตำรวจท้องที่ตรวจตราความเรียบร้อยเป็นระยะเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาล และการทะเลาะวิวาท สำหรับการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับ อสม. ตั้งด่านชุมชน ด่านครอบครัวเพื่อสกัดกั้นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดน้อยที่สุด เทศกาลสงกรานต์บุคลากรทางการแพทย์ อุทิศตนทุ่มเทเสียสละ เป็นวันที่คนส่วนใหญ่หยุด แต่เจ้าหน้าที่เราไม่หยุด และต้องมาขึ้นเวรมากขึ้น จึงขอให้เป็นกำลังใจและร่วมมือในการปฏิบัติงาน และขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ
นพ.ธเรศกล่าวว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสถิติ ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรลดลง เนื่องจาก โควิดทำให้การเดินทางน้อยลง แต่ปี 2565 สถิติเริ่มเพิ่มขึ้นเป็น 26.65 ต่อแสนประชากร เป็นสัญญาณเตือน ช่วงนี้ประชาชนเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ปัญหาหลักเกิดจากดื่มแล้วขับทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต กรมได้ติดตามการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เน้นย้ำไปที่ทุกจังหวัดทำงานเชิงรุกช่วงก่อนเทศกาล ทั้งสถานที่ห้ามขายต่างๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน สวนสาธารณะ ร้านค้าในชุมชน ช่วงเวลาห้ามขาย ซึ่งเราให้ขายในช่วง 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น.
พร้อมรับฝากบ้านไว้กับตร.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมาประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกันบ้างแล้ว และคาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับมากที่สุดในวันที่ 16 เม.ย.และ 17 เม.ย.เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมี ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับภูมิลำเนามากกว่าช่วงสงกรานต์ปี 2565 ประมาณร้อยละ 5 ในที่ประชุมมีการเน้นย้ำเรื่องงานด้านการจราจร ทำอย่างไรให้การจราจรเกิดความคล่องตัว วางมาตรการห้ามรถบรรทุกวิ่งในช่วงประชาชนเดินทางไป เดินทางกลับ แต่หากมีความจำเป็นให้ขออนุญาตกับตำรวจทางหลวง
“ได้สั่งเตรียมกำลังพลกว่า 100,000 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจร รวมถึงการป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยจะปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาลไม่มีวันหยุด” ผบ.ตร.กล่าว
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ในส่วนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จะดูแลตามสถานที่ จัดงานสงกรานต์ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีประชาชนเข้าร่วมโครงการบ้างแล้ว จากนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงโครงการมากขึ้น กรณีการเล่นน้ำให้เป็นนโยบายของแต่ละจังหวัด แต่จะพยายามสอบถามถึงนโยบายของแต่ละจังหวัด ว่า มีนโยบายกันอย่างไร ในส่วนกรุงเทพฯ และบช.น.ได้ห้ามใช้รถกระบะขนน้ำ สำหรับการเล่นแป้งยังต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งในที่ประชุมอีกครั้ง ในช่วงเทศกาลยังจะมีการตั้งจุดตรวจ เพื่อคัดกรอง ให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ส่วนการลดอุบัติเหตุเราจะพยายามลดให้ได้มากที่สุด จาก 3 ปีย้อนหลัง โดยจะมีการดำเนินการให้ดีที่สุด
กทม.ไม่ห้ามสงกรานต์สีลม
ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ว่า ปีนี้ กทม.ไม่ได้จัดกิจกรรมสงกรานต์ที่ถนนสีลม ประชาชนสามารถไปเล่นน้ำสงกรานต์ได้ตามปกติ โดยกทม. จัด เจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่อดูแลความเรียบร้อยบริเวณทางเท้า รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลด้านการจราจรและความปลอดภัย เพื่อรองรับผู้ที่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ย่านสีลม ทั้งนี้ ยืนยันว่า กทม.ไม่ได้ห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ที่สีลม และ กทม.ไม่ได้จัดงานที่สีลม แต่กทม.จัดกิจกรรมที่ลานคนเมือง และคลองผดุงเกษม
สำหรับจุดเล่นน้ำกทม.มีถึง 198 แห่ง ประชาชนสามารถเลือกได้ ส่วนมากภาคเอกชนเป็นผู้จัดงานภายใต้รูปแบบต่างๆ เช่น งานวัด ท่องเที่ยวชุมชน สถานบันเทิง โดย กทม.ประสานงานกับตำรวจและ เจ้าหน้าที่เขตในการดูแลความเรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องการจราจร การปรับมุมกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ
นายชัชชาติกล่าวว่า ส่วนเรื่องการห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่เล่นสงกรานต์ เป็นไปตามวันเวลาจัดจำหน่ายตามกฎหมายกำหนด และใบอนุญาตการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ กทม.ไม่อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ โดยจะมี เจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยตามถนนต่างๆ ที่มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ แต่ประชาชนสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ภายในร้านตามกฎหมายกำหนดเท่านั้น ไม่สามารถนำออกมาดื่มนอกร้านหรือในพื้นที่สาธารณะได้ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ลานคนเมือง ซึ่ง กทม.เป็น ผู้จัด ไม่อนุญาตให้มีการดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เนื่องจากจุดประสงค์ต้องการให้เป็นงานของครอบครัวมีความสุขร่วมกัน เชื่อว่าสงกรานต์ไม่จำเป็นต้องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถบริโภคได้ตามกรอบกฎหมายกำหนด ซึ่ง กทม.ไม่มีสิทธิ์ห้าม
แรงงานกลับทะลักตม.สระแก้ว
สำหรับบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งประชาชนจำนวนหนึ่งเริ่มทยอยเดินทางกันตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว มีแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย นับหมื่นคน ทยอยแห่เดินทางมาเพื่อจะเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวและเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ที่บ้านเกิดในฝั่งกัมพูชา จนทำให้บริเวณช่องทางเดินเท้าเข้าอาคาร ผู้โดยสารขาออกเนืองแน่น เต็มไปด้วยแรงงานชาวกัมพูชาที่ขนสัมภาระและหอบลูกจูงหลาน เพื่อจะเดินทางกลับ
พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 9-13 เม.ย.นี้จะมีแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยทั่วประเทศเดินทางกลับไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ในฝั่งประเทศกัมพูชาจำนวนมาก โดยจะสังเกตได้จากวันที่ 9 เม.ย.66 จนถึงวันนี้มีแรงงานชาวกัมพูชา เดินทางมาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก วันละกว่า 5,000 คน
ตม.สระแก้วคาดว่าจะมีแรงงานกัมพูชาที่ขึ้นทะเบียนแรงงานไว้กับสำนักงานจัดหางานจังหวัดสระแก้วประมาณ 5 หมื่นกว่าคน เดินทางกลับประเทศด้วยในช่วงสงกรานต์นี้ และยังมีแรงงานที่นายจ้างเลิกจ้างเดินทางกลับ
ปากช่องรถเริ่มแน่น
ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นครราชสีมา ยังมีประชาชนทยอยเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางต่อไปภูมิลำเนาในภาคอีสานกันอย่างต่อเนื่อง โดยภายในบริเวณอาคาร 1 ซึ่งเป็นจุดต่อรถ มีประชาชนจำนวนมากต่างหอบหิ้วสัมภาระ ซื้อตั๋ว และนั่งรอต่อรถ เพื่อจะเดินทางก่อนช่วงวันหยุดสงกรานต์ ต่อรถไปยังจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี เลย และชัยภูมิ โดยมีประชาชนบางส่วนที่เป็นพนักงานโรงงาน ก็เริ่มทยอยหยุดกันแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่วนที่อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารของคิวรถตู้ ก็มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาใช้บริการกันอย่างคึกคัก โดยซื้อตั๋วรถเตรียมเดินทางไปยังจ.บุรีรัมย์และ จ.ขอนแก่น
ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ในเขตจ.นครราชสีมา ช่วงผ่านอำเภอปากช่อง และอำเภอสีคิ้ว ก็พบว่า ถนนมิตรภาพบายพาส ช่วงก.ม. 58 ขาออกจากกรุงเทพฯ บริเวณสะพานต่างระดับเขาใหญ่ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ปริมาณรถปานกลางเต็ม ทุกช่องทาง การจราจรยังคล่องตัว ใช้ความเร็วได้ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีจำนวนไม่น้อยที่มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนธนะรัชต์ -เขาใหญ่ เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือเช็กอินเข้าใน รีสอร์ต-โรงแรมในช่วงสงกรานต์ คาดว่าช่วงเย็นปริมาณรถจะเพิ่มมากขึ้นอีก
สงกรานต์ไทย-ลาวที่เลยคึกคัก
ที่ อ.นาแห้ว จ.เลย นายณรงค์ จีนอ่ำ รอง ผวจ.เลย และท่านสมสนุก ไซอุดม เจ้าเมืองบ่อแตน แขวงไซยะบูลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นประธานเปิดงานประเพณีสงกรานต์ไทย-ลาว เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามและส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเมืองบ่อแตน แขวง ไซยะบูลี กับ อ.นาแห้ว
โดยนายจักรภัทร พรหมคล้าย นายอำเภอนาแห้ว กล่าวว่า บ้านเหมืองแพร่เป็นหมู่บ้านชายแดนเล็กๆ ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเหือง แนวพรมแดนระหว่างไทย-ลาว โดยเป็นพื้นที่ที่คนจากฝั่งลาวจะข้ามมาซื้อของใช้จำเป็น และนาของพื้นถิ่นมาขาย หรือแลกเปลี่ยนในหมู่บ้าน คนทั้ง 2 ชาติจึงมีความใกล้ชิด และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในช่วงเทศกาลสงกรานต์บ้านเหมืองแพร่ได้จัดการประกวดนางสงกรานต์ของแต่ละชุมชน และจัดขบวนแห่ต้นดอกไม้ ในวันงานตลอดระยะทางกว้าง 1 กิโลเมตร ที่ขบวนแห่เคลื่อนไปยังบริเวณที่จัดงานสงกรานต์ไทย-ลาว ริมแม่น้ำเหือง เป็นไปด้วยบรรยากาศสนุกสนาน ครึกครื้นของคนในพื้นที่ที่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีท้องถิ่น และเฉลิมฉลองวันปีใหม่ไทย
ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานในการประกอบพิธี จุมน้ำทิพย์ โดยนำน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 9 แหล่งน้ำสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ มาประกอบเป็นน้ำทิพย์ ก่อนที่จะนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว เป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือ “ปี๋ใหม่เมือง เจียงใหม่ ประจำปี 2566”
พิธีจุมน้ำทิพย์ เริ่มจากการจุดเทียนโต๊ะเครื่องพลีกรรม บวงสรวง และอาจารย์ผู้ทำพิธีฯ วางควักข้าวแด่แม่พระธรณี พร้อมกล่าวคำโองการอัญเชิญเทพยดาที่ปกปักรักษาบ่อน้ำทิพย์ แหล่งน้ำทิพย์ มารับเครื่องพลีกรรม จากนั้นเป็นการประกอบพิธีสงฆ์ โดยประธาน ในพิธีและแขกผู้มีเกียรติในงานได้ร่วมกันเทน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั้ง 9 แหล่งน้ำสำคัญลงในหม้อน้ำทิพย์ ระหว่างนั้นพระสงฆ์จำนวน 9 รูปได้สวดพุทธมนต์และสวดไชยมงคลแบบโบราณ และในช่วงค่ำวันนี้ เวลา 19.19 น. จะได้ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์น้ำทิพย์ ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อผู้ที่ได้รับน้ำทิพย์ และเฉลิมฉลอง “น้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2566”
บรรยายใต้ภาพ
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 12 เม.ย. 2566 (กรอบบ่าย)