ตรวจเข้มวัดควันดำรถร่วม บขส. อู่รถเมล์ ขสมก. แก้จุดเสี่ยงสวนป่า เยี่ยมศูนย์ BFC เขตทวีวัฒนา ชมตลาดเวิลด์มาร์เก็ตต้นแบบคัดแยกขยะ ปลูกต้นทองอุไรถนนสวยพรานนก-สาย 4 ช่วงกาญจนาตัดสาย 2

(8 พ.ย.65) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจวัดควันดำรถยนต์โดยสารสาธารณะ รถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตทวีวัฒนา

“การตรวจวัดควันดำรถโดยสารสาธารณะ รถร่วมบริการของบริษัทขนส่ง บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ตลิ่งชัน โดยกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก และสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน จากการตรวจวัดควันดำรถยนต์ไปประมาณ 10 กว่าคัน พบว่ามีรถอยู่ 1 คัน ที่ไม่ผ่านการตรวจ เนื่องจากมีค่าควันดำเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ จากตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดระบบความทึบแสง ต้องไม่เกินร้อยละ 30 ขณะนี้กรมการขนส่งจึงได้พ่นสีเป็นข้อความไว้ตรงกระจกด้านหน้ารถ ไม่ให้ใช้รถดังกล่าวเป็นเวลา 30 วัน เจ้าของรถต้องนำรถไปแก้ไขสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ จึงจะสามารถนำรถออกมาใช้งานได้ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ มาจากควันดำของรถยนต์ที่มีค่าเกินมาตรฐาน ซึ่งรถโดยสารสาธารณะ รถร่วมบริการของบริษัทขนส่งจะมีการตรวจวัดควันดำอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง ทั้งนี้ขอฝากถึงเจ้าของรถทัวร์ รถตู้ รถสองแถว รถรับจ้างสาธารณะทั่วไป ให้หมั่นตรวจสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และมีค่าควันดำที่ไม่เกินมาตรฐาน เพื่อร่วมกันลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5” รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าว

จากนั้นติดตามการตรวจวัดควันดำรถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ บริเวณอู่รถบรมราชชนนี สำนักงานเขตทวีวัฒนา ร่วมกับเขตการเดินรถที่ 6 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา โดยใช้เครื่องตรวจวัดควันดำและเครื่องตรวจวัดระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ สำหรับค่ามาตรฐานควันดำ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 เมษายน 2565 กำหนดค่ามาตรฐานควันดำต้องไม่เกินร้อยละ 30 ด้วยเครื่องมือวัดระบบความทึบแสง และต้องไม่เกินร้อยละ 40 ด้วยเครื่องมือวัดระบบกระดาษกรอง ส่วนค่ามาตรฐานเสียง ระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ ไม่เกิน 100 เดซิเบล

สำหรับจุดเสี่ยงภัยในพื้นที่เขตทวีวัฒนา มีจำนวน 4 จุด ได้แก่ 1.หมู่บ้านทิพย์มณฑล (ซอยบรมราชชนนี 64 แยก 1) 2.ซอยเกิดโชค (ซอยทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 31) 3.ซอยสันติสุข (ศาลาธรรมสพน์ 6) และ 4.สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ ถนนบรมราชชนนี ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปลี่ยว รกร้างว่างเปล่า มีมุมอับลับสายตา ทั้งนี้ เขตฯ ดำเนินการติดตั้งตู้เขียว ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจตราดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในช่วงกลางวันและกลางคืน

ตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารราชการ ฉับไวใสสะอาด (Bangkok Fast & Clear : BFC) เขตทวีวัฒนา เป็นการพัฒนารูปแบบการให้บริการของกรุงเทพมหานคร โดยนำงานบริการของ 10 ฝ่ายในสำนักงานเขต มาให้บริการรวมกันที่จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มารับบริการและติดต่อราชการกับกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเขตฯ เปิดให้บริการ 6 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายทะเบียน ฝ่ายรายได้ ฝ่ายคลัง ฝ่ายโยธา ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล และฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม โดยแจ้งประเภทงานที่มารับบริการตรงจุดประชาสัมพันธ์ รับบัตรคิวจากตู้ BMA Q รอเรียกเข้ารับบริการตามประเภทงานของฝ่าย หรือนัดหมายล่วงหน้าผ่าน Application BMA Q ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สอบถามถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน การจัดเก็บภาษีรายได้ จำนวนประชาชนที่มาใช้บริการในแต่ละฝ่าย เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด และเกิดความพึงพอใจแก่ประชาชนที่มารับบริการ

เยี่ยมชมตลาดต้นแบบการแยกขยะ ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต สุดยอดตลาดคุณภาพ Bangkok Premium Market 2565 มีพื้นที่ 35 ไร่ เป็นศูนย์รวมตลาดค้าส่ง-ค้าปลีก ตลาดสด ผัก ผลไม้ หมู เนื้อ ไก่ อาหารทะเล ของแห้ง ของชำ โชว์ห่วย ของฝาก กว่า 1,000 ล็อคร้านค้า เปิดขายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง กิจกรรมการแยกขยะ มีการคัดแยกขยะจากต้นทาง และนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดได้เป็นอย่างดี ดังนี้ ขยะทั่วไป เขตฯ เข้าจัดเก็บโดยใช้ถังรองรับมูลฝอยขนาด 10 ลบ.ม. (คอมแพ็คเตอร์) วันเว้นวัน (3 ครั้งต่อสัปดาห์) ขยะรีไซเคิล คัดแยกและนำไปขาย ขยะอินทรีย์ นำเศษผักผลไม้ไปทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ คัดแยกเศษอาหารและส่งมอบให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงสัตว์ ขยะอันตราย เขตฯ เข้าจัดเก็บโดยใช้รถเก็บขนมูลฝอยแบบเปิดข้างขนาด 1.5 ตัน เข้าจัดเก็บบริเวณจุดพักขยะอันตรายทุกวันที่ 16 ของเดือน สำหรับปริมาณขยะก่อนดำเนินการขยะทั่วไป 6,500 กก./วัน  หลังดำเนินการคงเหลือ 2,688 กก./วัน ขยะอินทรีย์ เศษผัก ผลไม้ เศษอาหาร นำกลับมาใช้ประโยชน์ ดังนี้ 1.เลี้ยงหนอนแมลงวัน 200 กก./เดือน 2.ทำน้ำหมักชีวภาพ 500 กก./เดือน 3.ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ 500 กก./เดือน 4.เลี้ยงไส้เดือนดิน 300 กก/เดือน และ 5.เขตทำปุ๋ยหมัก 100 กก./เดือน ขยะรีไซเคิล คัดแยกและนำไปขาย 1,500 กก./เดือน ขยะอันตราย 12 กก./เดือน

สำรวจถนนสวย (ปลูกต้นไม้ 1 ถนน 1 เขต) เขตฯ พิจารณาคัดเลือกถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4  (ช่วงถนนกาญจนาภิเษกตัดถนนพุทธมณฑลสาย 2 บริเวณจุดกลับรถ) ความยาวถนน 2,500 เมตร พื้นที่ 12,500 ตารางเมตร โดยดำเนินการปลูกต้นทองอุไร จำนวน 167 ต้น ตลอด 2 ฝั่งถนน

ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความปลอดภัย และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เขตทวีวัฒนา ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2565 ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตทวีวัฒนา

สำหรับการลงพื้นที่วันนี้มี นางชดาวรรณ ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตตลิ่งชัน นายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการทวีวัฒนา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา สำนักสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก และสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน เขตการเดินรถที่ 6 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา ผู้ประกอบการตลาดเวิลด์มาร์เก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #ปลอดภัยดี #บริหารจัดการดี
—–  (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)