กทม.ติดตามงานปรับปรุงระบบท่อประปาถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 กำชับผู้รับจ้างเพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชน

นายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา กทม.กล่าวกรณีประชาชนที่พักอาศัยบริเวณถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 เขตคลองสามวา ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากโครงการปรับปรุงซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 และซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 แยก 2 ไม่แล้วเสร็จตามกำหนดว่า สำนักงานเขตคลองสามวา ได้ตรวจสอบพบว่า ผู้รับจ้างตามสัญญาว่าจ้างไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามแผนงานและระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากติดกระบวนการดำเนินงานด้านการวางระบบท่อประปา จากการประชุมหารือร่วมกับการประปานครหลวง (กปน.) ได้ชี้แจงเหตุล่าช้าที่เกิดขึ้นว่า ระบบท่อประปา (ท่อส่งน้ำ) ภายในซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 เป็นท่อส่งน้ำเส้นเดียว แต่มีบ้านเรือนประชาชนภายในซอยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระบบวางท่อประปา เป็นท่อส่งน้ำทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา โดยเพิ่มแรงดันและปริมาณน้ำให้มากขึ้น จึงได้สำรวจ ออกแบบ และปรับปรุงวางระบบเส้นท่อใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ การก่อสร้างปรับปรุงถนนเส้นดังกล่าว ผู้รับจ้างโครงการฯ จะดำเนินการควบคู่กับการวางระบบท่อประปา เพื่อลดระยะเวลาการดำเนินการปรับปรุงถนนฯ ซึ่งขณะนี้ผู้รับจ้างได้ขอขยายระยะเวลาสัญญาจ้างเรียบร้อยแล้ว และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญา อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้เร่งรัดติดตามการปรับปรุงระบบท่อประปาฯ อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมแจ้งให้ผู้รับจ้างเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง รวมทั้งจัดทำสัญลักษณ์แสดงความปลอดภัย จุดอันตราย จุดระมัดระวัง เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว

นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวถึงการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของ กทม.ว่า สนย.ได้ติดตามเร่งรัดงานก่อสร้างทุกสัญญาเพื่อให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด พร้อมทั้งกำกับดูแลมาตรการป้องกันมลภาวะและความปลอดภัยระหว่างก่อสร้างอย่างใกล้ชิด ตลอดจนกำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการดำเนินการของผู้รับจ้าง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งเร่งรัดการแก้ไขปัญหากรณีเกิดผลกระทบจากการก่อสร้างโดยเร่งด่วนต่อไป

เขตจตุจักรตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนักเรียนถูกครูทำโทษด้วยไม้แบดมินตันตีกลางหลัง

นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม.กล่าวถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักเรียนในโรงเรียน สังกัด กทม.ถูกครูทำโทษโดยใช้ไม้แบดมินตันตีที่กลางหลังว่า จากพฤติกรรมของครูรายดังกล่าวเข้าลักษณะการกระทำผิดวินัย สำนักงานเขตฯ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่า มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหาจริง สำนักงานเขตฯ จะลงโทษครูตามควรแก่กรณีต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกครูใช้ไม้แบดมินตันตีเข้ามาพบเมื่อวันที่ 24 ก.พ.66 แต่เนื่องจากในวันนั้นนักเรียนคนดังกล่าวไม่ได้มาโรงเรียน โรงเรียนจึงนัดหมายอีกครั้งในวันที่ 27 ก.พ.66 เวลา 13.00 น. โดยได้ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม.กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติในการลงโทษเด็กนักเรียน โดยเฉพาะการลงโทษอย่างเหมาะสมและไม่สร้างความรุนแรงในโรงเรียนว่า กรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศเรื่องการส่งเสริมสิทธิเด็กในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยประสานสำนักงานเขต 50 เขต แจ้งโรงเรียนในสังกัดถือปฏิบัติตามแนวทางในประกาศฯ ซึ่งได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการส่งเสริมสิทธิเด็กและคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กที่ศึกษาในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก พร้อมทั้งกำชับการลงโทษอย่างเหมาะสมและไม่สร้างความรุนแรงในโรงเรียน ซึ่งจะต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน หรือนักศึกษา พ.ศ.2548 โดยผ่านการประชุมร่วมกับหัวหน้าฝ่ายการศึกษา สำนักงานเขต และผู้บริหารสถานศึกษา รวมถึงประชาสัมพันธ์การดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบโดยทั่วกัน