กทม.ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมพร้อมระบบระบายน้ำ จัดทีมแพทย์สนับสนุนการจัดประชุม APEC 2022

นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวถึงการเตรียมพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยระหว่างการจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) 2022 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและระงับอัคคีภัยในช่วงการจัดประชุม APEC 2022 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตามที่คณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรมอบหมาย โดยมีภารกิจ ดังนี้ (1) สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย พร้อมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถอุปกรณ์พิเศษ ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงและกู้ภัยประจำจุดเฝ้าระวังความปลอดภัยตามที่กำหนด อาทิ สถานที่จัดการประชุม สถานที่พักของบุคคลสำคัญ สถานที่จัดงานเลี้ยง และสถานที่ที่เกี่ยวข้อง โดยประสานแผนการปฏิบัติกับสถานีตำรวจนครบาลท้องที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการประชุมฯ (2) จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ยานพาหนะในการช่วยเหลือและกู้ภัยผู้ประสบภัยทางน้ำ อาทิ เรือดับเพลิง เสื้อชูชีพ ห่วงช่วยชีวิต และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เพื่อปฏิบัติงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายได้ทันที รวมทั้งประสานหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยทางน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ และ (3) จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ของศูนย์วิทยุพระราม โทร.199 เพื่อประสานการปฏิบัติตามแผนฯ เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างการจัดการประชุม APEC 2022 ในทุกมิติอย่างใกล้ชิด

นางวาสนา ศิลป์เบ็ญจพร รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า สำนักการระบายน้ำ ได้เตรียมพร้อมแผนการระบายน้ำกรณีฝนตกหนัก ด้วยการตรวจสอบและติดตามสภาพอากาศ ความพร้อมของเรดาร์ตรวจอากาศ ลดระดับน้ำตามคูคลองต่าง ๆ ในพื้นที่โดยรอบสถานที่จัดการประชุมและโรงแรมที่พักให้อยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่หน่วยเร่งด่วน (หน่วย BEST) พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อลงพื้นที่แก้ไขปัญหาได้ทันที รวมถึงเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง สถานีสูบน้ำ 190 แห่ง ประตูระบายน้ำ 244 แห่ง และบ่อสูบน้ำ 316 แห่ง ให้พร้อมใช้งาน จัดเตรียมสำรองเครื่องสูบน้ำกรณีเหตุฉุกเฉิน จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) พร้อมรถเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแผนปฏิบัติงานและการประสานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่าง ๆ ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022 โดยเฉพาะบริเวณสถานที่จัดการประชุมและสถานที่พักของผู้นำชาติต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุมในพื้นที่เขตปทุมวัน คลองเตย สาทร และเขตบางรัก ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้เปิดช่องทางการการรับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่าน http://dds.bangkok.go.th/ www.prbangkok.com Facebook:@BKK.BEST สำนักงานประชาสัมพันธ์ Twitter:@BKK_BEST สำนักงานประชาสัมพันธ์ รวมถึงการแจ้งจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมบนถนนสายหลัก และรับแจ้งเหตุน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ โทร.1555 หรือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำ โทร.02 248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue เพื่อกรุงเทพมหานครจะได้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาต่อไป

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า ในส่วนของสำนักการแพทย์ ได้เตรียมความพร้อมบริการทางการแพทย์ โดยร่วมประชุมคณะทำงานปฏิบัติการและประสานงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขสำหรับการประชุม APEC 2022 โดยมีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดการบริหารทางการแพทย์ร่วมปฏิบัติการและประสานด้านการแพทย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับภารกิจการประสานงานและจัดบริการด้านการแพทย์ รวมทั้งรวบรวมข้อมูล การจัดทำแนวทาง แผนการปฏิบัติงานด้านการดูแลรักษาและแผนการส่งกลับสายการแพทย์ เพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ตั้งแต่ท่าอากาศยานถึงที่พัก รวมทั้งจัดทีมแพทย์ประจำที่พัก โดยสำนักการแพทย์ สนับสนุนทีมปฏิบัติการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน และโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ พร้อมด้วยศูนย์เอราวัณประสานเครือข่ายระบบส่งต่อทางการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. ขณะเดียวกันศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ ได้เข้าร่วมประชุมเตรียมการดูแลรักษาความปลอดภัยและการตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉินของทีมผู้นำ APEC ซึ่งได้ประชุมร่วมกับภาคีเครือข่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา และในสัปดาห์หน้าจะแบ่งพื้นที่ทีมแพทย์เคลื่อนที่ตามจุดต่าง ๆ ร่วมกับตำรวจและหน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่อีกครั้ง นอกจากนั้น ยังได้เตรียมความพร้อมการให้บริการผู้ป่วยตามปกติแม้จะเป็นวันหยุดราชการพิเศษ ส่วนการแจ้งเหตุฉุกเฉิน สำนักการแพทย์ได้จัดบุคลากรติดตามข่าวและสถานการณ์ รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับแจ้งเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพและสาธารณสุขผ่านสายด่วน 1669 ตลอดจนเตรียมรถพยาบาลสนับสนุนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์และเตรียมพร้อมทีมสนับสนุนเมื่อได้รับการร้องขอจากหน่วยงานต่าง ๆ

กทม.ประสาน บก.ทท.เข้มงวดมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการในเขตดอนเมือง

นายสาโรจน์ พลฤทธิ์ ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กทม.กล่าวกรณีมีการร้องเรียนการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการของกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากไม่มีมาตรการควบคุมดูแลฝุ่นละอองและวัสดุจากการก่อสร้างว่า สำนักงานเขตดอนเมือง ได้ตรวจสอบโครงการดังกล่าว พบว่าเป็นโครงการประเภทอาคารอยู่อาศัยรวมของสำนักยุทธโยธาทหาร บก.ทท.บริเวณซอยนาวงศ์ประชาพัฒนา 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ มีห้องพักอาศัยจำนวน 182 ห้อง เป็นอาคาร ค.ส.ล. สูง 15 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างชั้นที่ 13 โดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคารการจัดสรรที่ดินและบริการชุมชน มีมติเห็นชอบการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ม.ค.64 และสำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมฝุ่นละอองและเสียงในรายงาน EIA พร้อมแจ้งให้ติดตั้งรั้ว metal sheet โดยรอบโครงการและได้ส่งแบบติดตามตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมฝุ่นละอองและเสียงตามแบบรายการ EIA ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.65

นอกจากนี้ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันมาตรการควบคุมฝุ่นละอองจากรถบรรทุกวัสดุก่อสร้าง โดยควบคุมให้เจ้าของรถ หรือผู้ขับรถบรรทุกจัดให้มีผ้าใบ หรือสิ่งปกคลุม เพื่อป้องกันเศษวัสดุก่อสร้างร่วงตกหล่นบนถนน รวมถึงให้จัดคนงานกวาดทำความสะอาดพื้นที่ที่รถบรรทุกวิ่งเข้าออกหน้าไซต์งานก่อสร้าง เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง จัดให้มีที่ล้างล้อ เพื่อล้างล้อรถบรรทุกก่อนวิ่งออกจากไซต์งานก่อสร้าง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจและบังคับการตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองบนถนน ขณะเดียวกันยังได้ประสาน บก.ทท.ให้กำชับผู้รับจ้างดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาให้เข้มงวดตรวจสอบโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่เขตดอนเมืองปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่นละอองและตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตก่อสร้าง

นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า สำนักการโยธา ได้ตรวจสอบอาคารดังกล่าวแล้ว พบว่า บริษัทผู้รับจ้างโครงการฯ ปฏิบัติตามมาตรการไม่ครบถ้วน ตามรายงาน EIA จึงได้ประสาน บก.ทท.ให้กำชับผู้รับจ้างโครงการฯ ปฏิบัติตามมาตรการให้ครบถ้วนอย่างเคร่งครัดและประสานสำนักงานเขตดอนเมือง ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา ได้ชี้แจงแนวทางและขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด โดยกำชับผู้ควบคุมงานให้ปฏิบัติตามมาตรการก่อสร้างและความปลอดภัยด้านฝุ่น เสียง การสั่นสะเทือน และการป้องกันวัสดุตกหล่น รวมทั้งตรวจสอบเครื่องมือและเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยระหว่างการดำเนินงานและให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด อาทิ กั้นล้อมอาคารด้วยวัสดุ หรืออุปกรณ์ที่สามารถป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและช่วยลดมลพิษทางอากาศ

กทม.พร้อมเฝ้าระวังไข้หวัดนกในตลาดธนบุรี – ตลาดนัดมีนบุรี
นางสาวสมฤดี จันทรพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิตในตลาดของ กทม.ว่า สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร มีตลาดในกำกับดูแล 12 แห่ง โดยมีตลาดที่จำหน่ายสัตว์ปีกมีชีวิต ๒ แห่ง คือ ตลาดธนบุรีและตลาดนัดมีนบุรี โดย กทม.ได้ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณทางเดิน แผงค้า และล้างตลาดเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ค้าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งทำความสะอาดแผงค้าก่อนและหลังทำการค้าเป็นประจำ ส่วนพื้นที่การจำหน่ายสัตว์ปีก (ที่ไม่มีชีวิตแล้ว) จะมีเจ้าหน้าที่จากกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย และฝ่ายสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตในพื้นที่ที่ตลาดในสังกัดตั้งอยู่ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ยังได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการตรวจสุขภาพผู้ค้าทุกปี และมีเจ้าหน้าที่ประกาศเสียงตามสายภายในตลาด เพื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคไข้หวัดนกให้ประชาชนทราบโดยทั่วถึง และแจ้งเตือนประชาชนไม่นำสัตว์ปีกที่ป่วยตายมาชำแหละ หรือรับประทาน หากพบผู้ป่วยต้องสงสัยแนะนำให้พบแพทย์ทันที นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์แจกเอกสารประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งแนะนำเรื่องการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกให้ผู้ค้า ทั้งนี้ หากประชาชนมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว หอบเหนื่อย และมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ปีกมีชีวิต ให้พบแพทย์โดยเร็ว และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 0 2245 4964 และ 09 7046 7549 หรือสายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

กทม.ตรวจสอบพร้อมจัดซ่อมผิวจราจรถนนรัชดาภิเษก ฝั่งทิศเหนือ ป้องกันอุบัติเหตุ

นายธวัชชัย สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างและบูรณะ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตหลังจากก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน – รัชดา ทำให้จุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเปลี่ยนมาอยู่ฝั่งขาเข้าเมืองแทน เนื่องจากรถที่วิ่งผ่านอุโมงค์ทางลอดผ่านเข้าสู่ทางโค้ง มักใช้ความเร็วสูง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา ได้ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวมีลักษณะผิวจราจรแอสฟัลต์คอนกรีตที่ไม่ได้ปรับปรุงมาเป็นเวลานานแล้ว โดยร่วมกับสถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทดสอบสภาพผิวจราจร พบว่าผิวจราจรบริเวณดังกล่าวมีความเรียบ ไม่เป็นหลุมบ่อ แต่มีค่าความเสียดทานต่ำกว่ามาตรฐาน สำนักการโยธา จึงได้จัดซ่อมถนนรัชดาภิเษก (ด้านฝั่งทิศเหนือ) ช่วงจากศูนย์โตโยต้าบัสส์ ยูสคาร์ ถึงซอยรัชดาภิเษก 32 เขตจตุจักร ด้วยวิธีพอรัสแอสฟัลต์คอนกรีต (Porous Concrete) เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว