นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมพัฒนากลไกและสร้างความเข้าใจกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ผ่านธรรมนูญสุขภาพระดับเขต โดยศูนย์ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ผู้นำชุมชน สภาองค์กรชุมชน และมูลนิธิดวงประทีป ณ หอประชุม วัดสะพาน เขตคลองเตย วานนี้ (29 ต.ค. 65)
โดยการประชุมในวันนี้แกนนำชุมชนในพื้นที่เขตคลองเตย ได้ร่วมกันระดมสมองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอ ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อมและที่อยู่อาศัย ด้านสังคมและยุติธรรมชุมชน และด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมเสวนาร่วมกันในแต่ละประเด็น ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาล กรุงเทพมหานคร และความร่วมมือของภาคประชาชน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทั้ง 6 มิติ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และยิ่งเป็นข้อเสนอของพี่น้องประชาชนยิ่งต้องรับฟังและนำไปปฏิบัติต่อ เขตเป็นกลไกสำคัญที่ใกล้ชิดชุมชน ซึ่งระดับของข้อเสนอ ที่ทำให้เกิดความชัดเจนในการทำงานมากขึ้น คือ ข้อเสนอด้านสิ่งแวดล้อม ควรแยกเรื่องที่อยู่อาศัยออกมา เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ควรเป็น 7 มิติ ที่จะเป็นธรรมนูญของคนคลองเตย กทม.พร้อมทำงานเพื่อประชาชนทุกคนในกรุงเทพฯ ดังนั้นเสียงของพี่น้องเป็นเสียงสำคัญ และต้องอาศัยการมีส่วนร่วมแบบนี้ ร่วมลงมือทำงานและแนะนำต่อไปด้วย
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การสร้างเศรษฐกิจชุมชน ตอนนี้กทม. ได้เชื่อมกับ ตลาดออนไลน์ หากชุมชนมีของดีจะช่วยเชื่อมการตลาด เพื่อให้มีระบบรองรับ และสร้างรายได้ กทม.กำลังพัฒนาอาสาสมัครเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบนี้
ทั้งนี้ มีข้อเสนอที่ขับเคลื่อนไปแล้วจากชุมชนเขตคลองเตยคือ โรงพยาบาลขนาด 350 เตียง ผ่านการอนุมัติและดำเนินการก่อสร้างบริเวณถนนสรรพวุธ โดยเริ่มลงเสาเข็ม และมีข้อเสนอจากที่ประชุมให้สร้างตลาดน้ำคลองเตย โดยนำเสนอภาพพื้นที่และการสำรวจ เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากชุมชน อย่างเป็นระบบตั้งแต่การผลิตถึงกลไกตลาด
สำหรับการประชุมในวันนี้มี พระพิศาลธรรมานุสิษฐ เจ้าอาวาสวัดสะพาน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ประธานมูลนิธิดวงประทีป นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย ผู้บริหารเขตคลองเตย ประธานชุมชน 42 ชุมชม และองค์กรเอกชน มูลนิธิ เอกชน กลุ่มทำงานในพื้นที่ กว่า 143 คน เข้าร่วม