
(25 พ.ย. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร และนางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ด้วยการนำเสนอสถานการณ์ สาเหตุ ห้วงเวลาการเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมาตรการเตรียมพร้อมรับมือ ปี 2569 โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ณ ห้องประชุม ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้นำเสนอสถานการณ์ สาเหตุ ห้วงเวลาการเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมาตรการเตรียมพร้อมรับมือ ปี 2569 ซึ่งสาเหตุหลักของฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสาเหตุมาจาก การเผาชีวมวล สภาพอากาศปิด และการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการกรุงเทพฯ เขตควบคุมมลพิษสู่ 10 มาตรการยกระดับ ประกอบด้วย 1. ยกระดับเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone : LEZ) ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ 50 เขต และการลงทะเบียน Green List 2. โครงการ Green List Plus ส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ เพื่อลดฝุ่นและลงทะเบียน Green List Plus เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตั้งเป้าหมาย 500,000 คัน 3. ยกระดับมาตรฐานการจัดการรถยนต์ควันดำ เพิ่มความเข้มข้นมาตรฐานการจัดการรถยนต์ควันดำจากเดิมห้ามเกิน 30% เป็นค่าควันดำห้ามเกิน 20% เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 4. ยกระดับการตรวจรถภายในไซต์ก่อสร้าง/สถานประกอบการ ตรวจวัดค่าควันดำในไซต์ก่อสร้าง เป็นการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฤดูฝุ่น รวมถึงให้รถ 6 ล้อขึ้นไปลงทะเบียน Green List 5. ยกระดับการจัดการมลพิษในโรงงานและสถานประกอบกิจการที่มีหม้อไอน้ำทุกแห่ง (รวม 256 โรงงาน) ตามมาตรฐาน TSP 6. ยกระดับการประสานงาน/ สนับสนุนจังหวัดข้างเคียง ในการทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อสนับสนุนการลดการเผาชีวมวล 7. ยกระดับการจัดทำห้องปลอดฝุ่น แล้วเสร็จในปี 2568 ในโรงเรียน 971 ห้อง (49%) และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 115 แห่ง (44%) ตั้งเป้าหมาย 100% ในโรงเรียน 1,966 ห้อง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 262 แห่ง 8. ยกระดับมาตรการ Work From Home: WFH ในปี 2568 ตั้งเป้าหมาย 200,000 คน (ได้ 103,781 คน) เป้าหมายสูงสุด 300,000 คน 9. ยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยระบบแจ้งเตือนผ่าน Social Media และ Line Alert พร้อมเพิ่มช่องทาง Cell Broadcast และระบบพยากรณ์คาดการณ์ล่วงหน้าฝุ่นได้จากเดิม 3 วัน เพิ่มเป็น 7 วัน และ 10. เพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกต้นไม้ล้านต้น (2.2 ล้านต้น) และสวน 15 นาที (441 แห่ง) โดยเพิ่มเป้าหมายเป็น 3 ล้านต้น กรุงเทพฯ ตะวันออกเป็นกำแพงกันฝุ่น (1 ล้านต้น) และสวน 15 นาที ครบ 500 แห่ง และการนำเสนอสถานการณ์ สาเหตุ ห้วงเวลาการเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคกลาง และมาตรการเตรียมพร้อมรับมือ ปี 2569 ของจังหวัดนครนายก
นอกจากนี้ เป็นการพิจารณามาตรการเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ปี 2569 ในพื้นที่ภาคกลาง โดยหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ ข้อเสนอในการบูรณาการเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ข้อเสนอเพื่อควบคุมและลดการเผาในพื้นที่เกษตร ข้อเสนอเพื่อควบคุมและลดการเผาในพื้นที่ป่า และข้อเสนอเพื่อควบคุมและลดมลพิษในพื้นที่เมือง
ในการนี้มีหน่วยงานที่ร่วมประชุม ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมประชาสัมพันธ์ กรมการขนส่งทางบก กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมอนามัย และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
#สิ่งแวดล้อมดี #กทมสู้ฝุ่น #BKKCleanAirAction #ต้นตอฝุ่น #รู้สู้ฝุ่น #กทมกู้อากาศสะอาด
—– (ปชส.สสล. รายงาน)


