
(21 พ.ย. 68) เวลา 13.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการบ้านมั่นคงพลัส” ณ ห้องบางกอก ชั้น B2 อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นโยบายเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมืองต้องขับเคลื่อนด้วยคนจำนวนมากในหลายบทบาท ทุกคนในที่นี้จึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเมือง สำหรับที่อยู่อาศัยที่ใกล้แหล่งงาน ตลาด สถานที่จ้างงาน จะกลายเป็นชุมชนที่มีคุณภาพที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ เนื่องจากเมืองที่มีคุณภาพประชาชนต้องมีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเมืองและต้องการมีส่วนร่วม รู้สึกภูมิใจ เนื่องจากตนก็เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเมืองด้วยเช่นกัน
“ประเทศสิงคโปร์เพิ่งก่อตั้งประเทศ ค.ศ.1965 แต่สามารถพัฒนาประเทศได้รวดเร็วเพราะเริ่มต้นจากการพัฒนา 3 สิ่ง คือ การศึกษา ปฏิรูประบบราชการ และพัฒนาที่อยู่อาศัย จะเห็นได้ว่าเมื่อประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงก็จะร่วมมือกันพัฒนาประเทศ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กทม. เป็นแค่ผู้ดูแลเมือง คลอง ถนน และที่สาธารณะ จึงไม่สามารถยกที่ดินเพื่อสร้างบ้านให้ทุกคนได้ กทม. จึงต้องร่วมมือกับหน่วยภาคีเครือข่ายอื่น ๆ อาทิ กรมธนารักษ์ โดยมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) หรือ พอช. เป็นผู้ขับเคลื่อนประสานงานอย่างเข้มแข็ง
“หัวใจของการสร้างบ้านมั่นคงคือการบริหารการเปลี่ยนแปลงให้มีความเหมาะสม ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง จึงต้องทำให้ทุกคนรู้สึกเชื่อมั่น รู้สึกมีความมั่นคงขึ้นในการเปลี่ยนแปลงนั้น กทม. จึงต้องรับฟังความต้องการและคิดเห็นของทุกคนนำมาพัฒนา ปรับปรุง ให้บ้านมั่นคงมีความเหมาะสมเพียงพอสำหรับทุกคน และเพื่อทำให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง ได้เห็นประโยชน์จากโครงการนี้และเข้าร่วมโครงการ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้ โครงการบ้านมั่นคง เป็นนโยบายสำคัญที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546 โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) หรือ พอช. และปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีโครงการบ้านมั่นคงแล้ว 203 โครงการ ครอบคลุมกว่า 100,000 ครัวเรือน สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการรวมกลุ่มของชุมชนและความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชนที่เข้มแข็ง การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนบ้านมั่นคงในกรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “บ้านมั่นคงพลัส” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเมือง ที่ทุกคนสามารถอยู่อาศัยได้อย่างมั่นคง มีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากข้อมูลสํารวจล่าสุดของสำนักพัฒนาสังคม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย กรุงเทพมหานคร (สพอ.) พบว่า ในปี 2568 พื้นที่กรุงเทพฯ มีชุมชนจดทะเบียนแล้ว จำนวน 2,001 ชุมชน และยังมีชุมชนที่ไม่มั่นคงด้านที่อยู่อาศัยกว่า 905 ชุมชน รวม 149,000 หลังคาเรือน แบ่งเป็นชุมชนที่ยังไม่ได้จดทะเบียน 278 ชุมชน 23,000 หลังคาเรือน และชุมชนแออัดจดทะเบียน 627 ชุมชน 125,668 หลังคาเรือน ซึ่งส่วนใหญ่ประสบปัญหา เรื่อง ที่ดินเช่ารัฐและเอกชน รวมถึงการขาดกลไกรองรับการพัฒนา
ผู้ร่วมการประชุม ได้แก่ ผู้แทนโครงการบ้านมั่นคง จำนวน 203 ชุมชน ผู้แทนสำนักงานเขต ผู้แทนเครือข่ายที่อยู่อาศัย และผู้แทนภาคีเครือข่ายภาคประชาชน รวมทั้งสิ้น จำนวน 400 คน ร่วมประชุมเพื่อให้สำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน ผู้แทนโครงการบ้านมั่นคง ผู้แทนชุมชนผู้มีรายได้น้อย ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ และข้อเสนอแนะ พร้อมร่วมกำหนดแนวทางการดําเนินงานร่วมกัน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานร่วมกัน ระหว่างองค์กรท้องถิ่นและชุมชน ให้เกิดความยั่งยืนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย ได้ดำเนินงานตามนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง “บ้านมั่นคงพลัส” โดยประสานการทำงานร่วมกับสำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขต สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และเครือข่ายชุมชนหลากหลายกลุ่ม โดยได้ขับเคลื่อนพื้นที่นำร่องในปี พ.ศ. 2567 จำนวน 6 เขต 14 ชุมชน 1,010 ครัวเรือน และเริ่มขยายผลเพิ่มมากขึ้นในปี พ.ศ. 2568 อีกจำนวน 5 เขต 12 ชุมชน 1,441 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 11 เขต 2,451 ครัวเรือน
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และ 2570 สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ดำเนินงานนำร่องในพื้นที่ 7 เขต 16 ชุมชน ได้แก่ ราชเทวี ประเวศ สวนหลวง หลักสี่ จตุจักร บางบอน และคลองสามวา โดยปี 2569 เสนอของบประมาณดำเนินการใน 1 เขต 2 ชุมชน วงเงิน ประมาณ 20.3 ล้านบาท และปี 2570 เตรียมพัฒนาใน 6 เขต 14 ชุมชน ซึ่งจะเป็นพื้นที่ต้นแบบให้ขยายผลต่อไปในระยะยาว ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับด้านกายภาพของที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ พื้นที่ส่วนกลาง และบริการสาธารณะให้เกิดประโยชน์ต่อทุกครัวเรือนอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือที่ทุกฝ่ายที่ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนอยู่ได้อย่างเท่าเทียม โดยทุกหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเชิงระบบ ที่ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ทุกคน “อยู่ดี มีบ้าน และมีศักดิ์ศรี” ได้อย่างแท้จริง
พิธีในวันนี้ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย (สพอ.) ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ อัศวโกวิทวงศ์ ผู้อํานวยการศูนย์การทดลองของเมือง (CITY LAB) กรุงเทพมหานคร รศ.ไตรรัตน์ จารุทัศน์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญการออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน ผู้แทน CHULA.UDC คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.วิจิตรบุษบา มารมย์ ผู้แทนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางพันทิพา วิศาลศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการพัฒนาชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) หรือ พอช. ร่วมพิธี


