กทม. เดินหน้า 10 มาตรการเข้ม รับมือไฟป่า–หมอกควัน–PM2.5 ปี 2569 นำโดย LEZ ทั่วกรุงเทพ ค่าควันดำเข้มไม่เกิน 20% เพื่อปกป้องสุขภาพคนกรุงช่วงวิกฤตฤดูฝุ่น

 

 

(19 พ.ย.68) เวลา 15.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมการประชุมเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2569 โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประขุม ณ ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล และผ่านระบบการประชุมทางไกล (VCS)

 

ที่ประชุมได้แจ้งสถานการณ์และมาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2569 รวมถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รายงานถึงประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดให้ท้องที่เขตกรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.68 เนื่องจากช่วงเวลา เดือน พ.ย. -มี.ค. ของทุกปี กรุงเทพมหานครประสบปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน 

 

กทม.จึงดำเนินการควบคุม ลด และขจัดฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ให้หมดไปเพื่อยกเลิกประกาศดังกล่าว ด้วยการยกระดับ 10 มาตรการ ประกอบด้วย 1. เขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone : LEZ) ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ 50 เขต และการลงทะเบียน Green List 2. โครงการ Green List Plus ส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ เพื่อลดฝุ่นและลงทะเบียน Green List Plus เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตั้งเป้าหมาย 500,000 คัน 3. เพิ่มความเข้มข้นมาตรฐานการจัดการรถยนต์ควันดำจากเดิมห้ามเกิน 30% เป็น ค่าควันดำห้ามเกิน 20% เริ่ม 1 พ.ย.68 เฉลี่ยเรียกตรวจ 10,000 คัน จับเพิ่มได้ 3.6 เท่า เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานควันดำที่ 30% ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา 4. ตรวจรถภายในไซต์ก่อสร้าง/สถานประกอบการ โดยการตรวจสุขลักษณะ ตรวจควันดำในไซต์ โดยสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฤดูฝุ่น รวมถึงให้รถ 6 ล้อขึ้นไปลงทะเบียน Green List 5. การจัดการมลพิษในโรงงานและสถานประกอบกิจการที่มีหม้อไอน้าทุกแห่ง (รวม 256 โรงงาน) ตามมาตรฐาน TSP เข้มข้นขึ้น 78%, SO2 เข้มข้นขึ้น 87% NOx เข้มข้นขึ้น 60% พร้อมให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎหมาย ตั้งแต่บัดนี้ – 21 พ.ย. 68

 

6. ประสานงาน/สนับสนุนจังหวัดข้างเคียง ในการทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อสนับสนุนการลดการเผาชีวมวล 7. จัดทำห้องปลอดฝุ่น แล้วเสร็จในปี 68 ในโรงเรียน 971 ห้อง (49%) และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 115 แห่ง (44%) ตั้งเป้าหมาย 100% โรงเรียน 1,966 ห้อง + ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 262 แห่ง 7. Work From Home: WFH ในปี 68 ตั้งเป้าหมาย 200,000 คน (ได้ 103,781 คน) เป้าหมายสูงสุด 300,000 คน 9. การมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยระบบแจ้งเตือนผ่าน Social Media และ Line Alert พร้อมเพิ่มช่องทาง Cell Broadcast และ ระบบพยากรณ์คาดการณ์ล่วงหน้าฝุ่นได้จากเดิม 3 วัน เพิ่มเป็น 7 วัน และ 10. เพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกต้นไม้ล้านต้น (2.2 ล้านต้น) + สวน 15 นาที (441 แห่ง) โดยเพิ่มเป้าหมายเป็น 3 ล้านต้น + กรุงเทพฯ ตะวันออกเป็นกำแพงกันฝุ่น(1 ล้านต้น) + สวน 15 นาที ครบ 500 แห่ง

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ระดับพื้นที่ การลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยกระทรวงสาธารณสุข และกรมประชาสัมพันธ์ โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและข้อสั่งการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2569 

 

การประชุมครั้งนี้ นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร และนายทศพล สุภารี รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุม โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 36 หน่วยงาน และผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าร่วมการประชุมและประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (VCS) 

 

#สิ่งแวดล้อมดี


————

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200