
(12 พ.ย. 68) เวลา 12.45 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตบางซื่อ ประกอบด้วย
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ คอนโด 333 ริเวอร์ไซด์ ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 พื้นที่ 11 ไร่ 1 งาน 49.5 ตารางวา มีอาคาร 3 อาคาร ห้องพัก 950 ห้อง ผู้พักอาศัย 550 ห้อง จำนวน 539 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะเศษอาหาร เดิมส่งให้เขตฯ จัดเก็บไปทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเกษตรกรมารับไปเลี้ยงสัตว์ 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิล ขวดน้ำส่งให้ ปตท. 1 ครั้ง/เดือน ประเภทอื่นนำไปขายกับซาเล้ง 2 ครั้ง/เดือน 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไป เขตฯ จัดเก็บ 4.ขยะอันตราย คัดแยกขยะอันตราย เขตฯ จัดเก็บไปกำจัดอย่างถูกวิธี สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 3,000 ลิตร/วัน หลังคัดแยก 2,750 ลิตร/วัน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 25 ลิตร/วัน หลังคัดแยก 50 ลิตร/วัน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 200 ลิตร/วัน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขยะทั่วไปและขยะรีไซเคิล ที่สามารถคัดแยกออกมาได้อีก ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามหมู่บ้าน ชุมชน คอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ปัจจุบันเริ่มจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่แล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568
พัฒนาสวน 15 นาที สวนแยกวงศ์สว่าง บริเวณหัวมุมถนนวงศ์สว่างตัดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาพื้นที่ว่าง จัดทำทางเดิน ตั้งวางม้านั่ง ติดโคมไฟโซลาร์เซลล์ ปูหญ้าสนาม ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับเพิ่มเติม รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหารเขตฯ ร่วมกันปลูกต้นแก้วเจ้าจอม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่นสวยงามภายในสวนดังกล่าว นอกจากนี้ เขตฯ ได้มีแนวคิดในการบำรุงรักษาดินและดูแลต้นไม้ภายในสวน โดยนำไส้เดือนมาปล่อยไว้ในสวน เพื่อใช้มูลจากไส้เดือนเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้และสารอาหารแก่ดิน ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนสุขภาพประชานุกูล พื้นที่ 2 ไร่ 2.สวนหย่อมริมคลองประปา พื้นที่ 25 ไร่ สวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ 1.สวนป่าวัดมัชฌันติการาม (วัดน้อย) พื้นที่ 5 ไร่ 2.ลานเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 หรือสวนเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 72 พรรษา ถนนรัชดาภิเษก (หน้าศิริชัยไก่ย่าง) พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 71 ตารางวา 3.ลานปฏิบัติธรรม สุวรรณ สาทธารมย์ หรือสวนสุวรรณสุทธารมย์ (วัดทองสุทธาราม) พื้นที่ 8 ไร่ 4.สวนเรียบรัชดาวนาลี หรือสวนหย่อมหน้าร้านนิตยาไก่ย่างและสวนสุขภาพประชานุกูล พื้นที่ 3 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา 5.สวนหย่อมใต้ทางด่วน ซอยประชาชื่น 30 พื้นที่ 157 ตารางวา 6.สวนเกษตรดาดฟ้า ชั้น 4 สำนักงานเขตบางซื่อ หรือสวนเกษตรดาดฟ้าในเมือง พื้นที่ 117 ตารางวา 7.สวนประชาชื่นใจ ปากซอยประชาชื่น 19 พื้นที่ 152 ตารางวา 8.สวนธนะสิริ ซอยประชาชื่น 43 พื้นที่ 1 งาน 2 ตารางวา 9.สวนวงศ์สว่างร่วมใจ บริเวณสี่แยกวงศ์สว่าง พื้นที่ 64 ตารางวา 10.สวนบริเวณแยกประชาชื่น (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน) พื้นที่ 100 ตารางวา 11.สวนภายในวัดเชิงหวาย พื้นที่ 400 ตารางวา 12.สวนด้านหลังสำนักงานเขตบางซื่อ พื้นที่ 25 ตารางวา ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้เขตฯ ดูแลบำรุงรักษาสวน 15 นาที ที่จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คงความร่มรื่นและสวยงามอยู่เสมอ ซึ่งเขตฯ ยังมีพื้นที่ว่างสามารถพัฒนาเป็นสวน 15 นาทีได้อีก โดยให้พิจารณาถึงความเหมาะสม ออกแบบพื้นที่ภายในสวนให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพื่อให้การจัดทำสวน 15 นาทีเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
ตรวจจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI บริเวณปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 56 (วัดทอง) ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ซึ่งเขตฯ มีจุดติดตั้งกล้อง CCTV จำนวน 3 จุด ได้แก่ 1.ปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 39 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี 2.ปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 56 (วัดทอง) ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี 3.ปากซอยสนิท ถนนประชาราษฎร์สาย 2 เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บังคับการตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งเขตฯ ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ตั้งวางแผงเหล็กป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นบนทางเท้า จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเฝ้าระวังในจุดดังกล่าว ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น ทั้งการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมในจุดที่มึการฝ่าฝืนเป็นประจำ หรือการติดตั้งเสาเหล็กป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนทางเท้า โดยคำนึงถึงระยะห่างระหว่างช่องว่าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถเข็นผู้พิการสามารถเข็นผ่านไปได้
ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณข้างธนาคารกรุงไทย สาขาประชาราษฎร์ ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้า จำนวน 8 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 281 ราย ได้แก่ 1.ตลาดประจวบบางซื่อ ถนนเตชะวณิช ผู้ค้า 37 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 00.00-09.00 น. 2.ตลาดใต้สะพานสูง ถนนเตชะวณิช ผู้ค้า 69 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 10.00-14.00 น. 3.ตลาดมณีพิมาน ถนนประชาชื่น ผู้ค้า 12 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-20.00 น. 4.ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี รวมผู้ค้า 45 ราย แบ่งเป็นฝั่งขาออก (ซอยบุญเหลือ) ผู้ค้า 17 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 07.00-22.00 น. ฝั่งขาเข้า (ตลาดมณีพิมาน) ผู้ค้า 28 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 07.00-22.00 น. 5.หน้าตลาดบางซ่อน ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ผู้ค้า 29 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-11.00 น. และ 15.00-22.00 น. 6.ข้างห้างโลตัสประชาชื่น ผู้ค้า 24 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 07.00-23.00 น. อยู่ระหว่างพิจารณาเป็นจุดผ่อนผัน 7.ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี (ขาออก) หน้าสำนักงานสรรพกรพื้นที่ ถึงหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาประชาราษฎร์ ผู้ค้า 28 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 07.00-22.00 น. อยู่ระหว่างพิจารณาเป็นจุดผ่อนผัน 8.ตรอกข้าวหลาม (ชุมชนจันทร์เกษม) ผู้ค้า 37 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-22.00 น. อยู่ระหว่างพิจารณาเป็นตลาดนัดชุมชน ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าบริเวณซอยสะพานขวา ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผู้ค้า 9 ราย ต่อมาในปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 3 จุด ได้แก่ 1.ซอยโชติวัฒน์ (สะพาน 99) ผู้ค้า 8 ราย 2.ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผู้ค้า 10 ราย 3.ตลาดศรีเขมา ผู้ค้า 47 ราย ยกเลิกวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 ย้ายแผงค้าที่ตั้งวางกระจัดกระจาย ให้มารวมกลุ่มอยู่ภายในจุดเดียวกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 115 วิน ผู้ขับขี่ 1,248 คน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาให้เป็นวินต้นแบบ 12 วิน ซึ่งเขตฯ ได้ตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่ถูกต้องตามเกณฑ์จะแจ้งข้อบกพร่องให้ผู้ขับขี่รับทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย สำหรับแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวิน เบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารถูกต้อง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด อาทิ การแต่งกาย ป้ายทะเบียนรถ อัตราค่าโดยสาร สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร รวมถึงตรวจสอบจำนวนผู้ขับขี่ในแต่ละวิน จัดทำข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ตรวจสอบในพื้นที่ไม่ให้มีการแยกไปตั้งวินย่อยอย่างเด็ดขาด
ในการนี้มี นายธวัชชัย จันทร์เส ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบางซื่อ สำนักเทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #ปลอดภัยดี #เดินทางดี
#บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)


