กทม. จับมือ ดานอน คัดกรองความเสี่ยงการขาดธาตุเหล็กในเด็กปฐมวัย ลดภาวะโลหิตจาง ลดสาเหตุพัฒนาการทางสมองและร่างกายช้ากว่าปกติ

(12 พ.ย. 68) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรมคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในเด็กปฐมวัย โดยร่วมมือกับบริษัท ดานอน สเปเชียลไลซ์ นิวทริชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้สนับสนุนอุปกรณ์ตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจางด้วยวิธีสแกนปลายนิ้ว ไม่ต้องเจาะเลือด ให้แก่สำนักอนามัย จำนวน 6 เครื่อง เพื่อใช้ตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางในเด็กปฐมวัย พร้อมให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง เกี่ยวกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะโลหิตจางในเด็กปฐมวัยให้แก่บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลโภชนาการให้กับเด็กปฐมวัยในโรงเรียน ณ โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล) เขตดินแดง

รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า จากการที่สำนักอนามัยได้ตรวจเลือดเด็กปฐมวัย พบว่า 56% เด็กมีธาตุเหล็กต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่สำคัญ และมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง การส่งเสริมให้เด็กได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องตระหนัก ฉะนั้นวันนี้นอกจากอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนจากทางโรงเรียนแล้ว เราจึงต้องเชิญผู้ปกครองมาร่วมงานเพื่อที่จะให้รับรู้และทำความเข้าใจข้อมูลด้านโภชนาการ และจะได้เตรียมอาหารให้บุตรหลานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในส่วนของโรงเรียน ก็ได้เน้นย้ำกับทางคุณครูและการเตรียมอาหารจะต้องมีธาตุเหล็กให้เด็กได้กินทุกวัน ขอขอบคุณทางดานอนที่ได้มาสนับสนุนกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ ซึ่งกรุงเทพมหานครก็จะขยายผลให้มีกิจกรรมแบบนี้ทุกโรงเรียนในสังกัดต่อไป

ธาตุเหล็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะช่วงอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเติบโตอย่างรวดเร็วและสมองมีการพัฒนาอย่างมาก การขาดธาตุเหล็กอาจส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งมีผลกระทบต่อสติปัญญา การเรียนรู้ สมาธิ และภูมิต้านทานของเด็กได้ ซึ่งความสำคัญของธาตุเหล็กต่อเด็กปฐมวัย ได้แก่ การพัฒนาสมองและสติปัญญา เนื่องจากธาตุเหล็กจำเป็นต่อการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง และเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงานของสมองด้านความเข้าใจและความจำ (Cognitive Development) หากขาดจะทำให้ สมาธิสั้น ไอคิวลดลง และส่งผลต่อการเรียนรู้ ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางสาเหตุหลักของภาวะซีดในเด็ก ทำให้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เจริญเติบโตช้า นอกจากนี้ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้เด็กไม่ป่วยง่าย ซึ่งสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าลูกอาจขาดธาตุเหล็ก ผิวซีดบริเวณฝ่ามือ เปลือกตา อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่กระตือรือร้น การเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ ขาดสมาธิ หรือมีปัญหาด้านพฤติกรรม

วิธีการเสริมธาตุเหล็กที่ถูกต้อง สำหรับวัย 6 เดือนขึ้นไป เน้นการได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเสริมตามวัย จากกลุ่มอาหาร อาทิ เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อแดงและเครื่องใน เช่น ตับ เลือด) ไข่แดง ปลา กุ้ง ผักใบเขียวเข้ม ส่วนเคล็ดลับควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กพร้อมกับอาหารที่มี วิตามินซี เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึม ในการเสริมยาธาตุเหล็ก ในบางกรณีที่ได้รับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กที่ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว หรือคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักน้อย ควรปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับยาเสริมธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสม (ไม่ควรซื้อให้เด็กรับประทานเอง) และควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมวัวปริมาณมากเกินไปในเด็กอายุมากกว่า 1 ปี เนื่องจากอาจไปลดการดูดซึมธาตุเหล็ก

สำหรับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในเด็กปฐมวัยครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยกรุงเทพมหานครและบริษัท ดานอน ได้จัดกิจกรรมครั้งแรก ณ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ขยายผลโครงการให้เกิดประโยชน์เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร

#โรงเรียนกทมเปลี่ยนไปแล้ว #เรียนดี #เด็กปฐมวัย #ต้องเสริมธาตุเหล็ก

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200