z
(11 พ.ย. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ว่ายังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จากการระบายน้ำของกรมชลประทาน โดยคาดว่าปริมาณน้ำจะทรงตัวในช่วงวันที่ 11–12 พฤศจิกายนนี้ ก่อนมีแนวโน้มลดระดับลงหลังจากนั้น
.
โดยวานนี้ (10 พ.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณสะพานพุทธ–ท่าเตียน ยืนยันสถานการณ์ยังควบคุมได้ พร้อมสั่งทุกเขตริมเจ้าพระยาเฝ้าระวัง “3 น้ำ” ทั้งน้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน ตลอด 24 ชั่วโมง
.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุ ขณะนี้น้ำเหนือเพิ่มเป็นราว 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่น้ำหนุนน้อยลง ระดับน้ำสูงสุดราว 2.1 เมตร ต่ำกว่าแนวคันป้องกัน 2.8 เมตร เหลือระยะปลอดภัย 70 เซนติเมตร พร้อมใช้วิธี “สูบสู้” ระบายน้ำที่รั่วซึมกลับสู่แม่น้ำ ป้องกันล้นเข้าถนน ย้ำ กทม. ควบคุมสถานการณ์ได้ มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลา
.
กทม. เตรียมพร้อมเต็มกำลัง ป้องกันน้ำเหนือ–น้ำหนุน
โดยได้ประสานความร่วมมือกับ กรมชลประทาน กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมแผนรองรับมวลน้ำ โดยตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ รวมระยะทาง 88 กิโลเมตร
- แนวป้องกันน้ำของ กทม. 80 กม.
- แนวป้องกันของเอกชนและหน่วยงานอื่น 3.65 กม.
- แนวฟันหลอหรือยังไม่สามารถป้องกันได้ 4.35 กม.
.
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขต ได้เรียงกระสอบทรายป้องกันน้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือหลากแล้วเสร็จ 100% โดยมีระดับความสูง +2.40 ถึง +2.70 ม.รทก. พร้อมดูแลแนวป้องกันที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและแนวฟันหลอให้สามารถใช้งานได้ในภาวะฉุกเฉิน
11 ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำเฝ้าระวังใกล้ชิด
ข้อมูลจากสำนักการระบายน้ำ ระบุว่า กรุงเทพมหานครมี 11 ชุมชน นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ครอบคลุมพื้นที่ 6 เขต ได้แก่ ดุสิต พระนคร บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และคลองสาน รวมทั้งสิ้น 320 หลังคาเรือน ประชากรราว 1,070 คน ซึ่งเป็นพื้นที่ตลิ่งต่ำและมีโอกาสได้รับผลกระทบโดยตรงหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติได้สั่งการให้ทุกเขตเร่งเสริมแนวกระสอบทราย ตรวจสอบแนวฟันหลอ และสร้างสะพานไม้ชั่วคราวในจุดจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้ปลอดภัย รวมทั้งเตรียมกระสอบทรายสำรองและเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญ
และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดแนวพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
“3 น้ำ” เฝ้าระวัง — น้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน
.
10 พ.ย.68 กรมชลประทาน รายงานว่ามีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเป็น 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อระบายมวลน้ำจากตอนเหนือ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาใน จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพฯ ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด โดยเฉพาะในจุดที่แนวตลิ่งต่ำหรือคันป้องกันชำรุด
.
ในขณะเดียวกัน GISTDA เผยภาพดาวเทียมล่าสุดยืนยันว่า พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ได้เกิดน้ำเอ่อเข้าท่วมจริงในหลายจุด เช่น เทศบาลเมืองปทุมธานี บางกรวย ท่าน้ำนนท์ และบางส่วนของเขตบางพลัดในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ
.
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ชี้ฝนลดลงต่อเนื่อง ไม่เพิ่มความเสี่ยงน้ำหลาก โดยรายงานว่า ขณะนี้ปริมาณฝนทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง หลังพายุ “ฟงวอง” ในทะเลจีนใต้ตอนบนเปลี่ยนทิศทางไปทางตอนเหนือ และไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ช่วงนี้ ไม่มีมวลฝนก้อนใหญ่เข้ามาเติมระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ถือว่าไม่น่ากังวลเรื่องน้ำฝนในช่วงเฝ้าระวังนี้ โดยตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. เป็นต้นไป มวลอากาศเย็นจากจีนจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุม ทำให้อากาศเย็นลงและฝนลดลงอย่างชัดเจน
แจ้งเหตุได้ทันทีผ่าน Traffy Fondue และสายด่วน 1555
ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำและแจ้งขอความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ได้ผ่าน:
- เว็บไซต์: dds.bangkok.go.th, pr-bangkok.com
- เฟซบุ๊ก: @BKK.BEST, กรุงเทพมหานคร
- ทวิตเตอร์: @BKK_BEST
- โทรศัพท์: ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม 02-248-5115
- LINE @TraffyFondue หรือ สายด่วน 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ทุกเขตต้องพร้อมรับมือ ทั้งการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อมดูแลทุกคนอย่างใกล้ชิด”
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวตอนท้ายการลงพื้นที่วานนี้
ข้อมูล : กรมชลประทาน, กรมอุตุนิยมวิทยา, GISTDA, สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร
#น้ำท่วม #เจ้าพระยา #กทม #น้ำเหนือ #น้ำหนุน #เฝ้าระวังน้ำ


