กทม. จับมือกระทรวงทรัพยากรฯ–สภาอุตสาหกรรม–ค่ายรถยนต์ เปิดตัวโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5”เดินหน้าขับเคลื่อนเมืองสีเขียว รณรงค์ตรวจสภาพรถลดฝุ่น PM2.5 สร้างกรุงเทพฯ อากาศดีอย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้า 10 มาตรการเข้ม ลดมลพิษทางอากาศ ชวนประชาชนตรวจเช็กเครื่องยนต์ ลดควันดำ เพื่ออากาศสะอาดของคนเมือง
(29 ต.ค. 68) เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” ยกระดับมาตรการรับมือสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2569 โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางสาวยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุมศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ชั้น 2 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขตพญาไท
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า จากการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี วันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ได้มาร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “Green List Plus โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5” รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ เพื่อลดและขจัดมลพิษในกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้จัดกลุ่มมาตรการเป็น 4-3-3 คือ 4 กฎหมายเข้ม 3 ร่วมมือรอบด้าน และ 3 ปกป้องสุขภาพประชาชน รวมเป็น 10 มาตรการ ดังนี้

- โครงการรถคันนี้ลดฝุ่น เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนต่อเนื่องปีที่ 3 ซึ่งวันนี้ได้พัฒนาเป็น Green List Plus สำหรับรถ 4 ล้อ จึงอยากเชิญชวนให้นำรถมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ ณ ศูนย์บริการที่เข้าร่วม อาทิ ค่ายรถยนต์ ฮอนด้า โตโยต้า อีซูซุ ฟอร์ด นิสสัน ซูซูกิ มาสด้า มิตซูบิชิ ฮีโน่ สถานีจำหน่ายน้ำมันปตท. บางจาก เซลล์ พีที ศูนย์บริการบีควิก และบริษัทอื่น ๆ เพื่อรับส่วนลดค่าแรง ค่าอะไหล่ หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2569 โดยตั้งเป้าหมายไว้ 500,000 คัน พร้อมทั้งลงทะเบียน Green List Plus เพื่อรับใบรับรองบัญชีสีเขียว สำหรับรถ 4 ล้อ และนำไปรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากเดอะมอลล์ กรุ๊ป เซ็นทรัลพัฒนา ซีพีแอ็กซ์ตร้า BTS AIS หรือบริษัทอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เพิ่มชั่วโมงจอดรถฟรี หรือรับ Gift Voucher เป็นต้น
- มาตรการเขตมลพิษต่ำ (LEZ) จากเดิมห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก เป็นห้ามวิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ยกเว้นรถที่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) ซึ่งได้เปิดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://lez.bangkok.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรถ 6 ล้อขึ้นไป ลงทะเบียนแล้วกว่า 4,600 คัน
- มาตรฐานค่าควันดำ จากเดิมไม่เกินร้อยละ 30 เป็นไม่เกินร้อยละ 20 ต้องขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยผลักดันกฎหมายจนสำเร็จลุล่วงและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป แต่ยังมีกฎกระทรวงอีกฉบับที่ต้องร่วมกันผลักดันต่อไป เพื่อลดระยะเวลารถที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานออกมาวิ่งใช้งาน
- สถานที่ก่อสร้าง โรงงาน และสถานประกอบการ รถที่ใช้งานทุกคันจะต้องมีค่าควันดำไม่เกินมาตรฐาน และลงทะเบียนบัญชีสีเขียวกับกรุงเทพมหานคร
- ติดตั้งระบบ CEMs ในโรงงานที่มีหม้อไอน้ำ (Boiler) และแก้ไขค่ามาตรฐาน NOx SO2 และ TSP ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมในการยกร่างกฎหมาย
- ลดการเผาทางการเกษตรของจังหวัดโดยรอบกรุงเทพมหานคร โดยใช้กลไกเขตควบคุมมลพิษในการทำข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เริ่มหารือกับจังหวัดนครนายกแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
- ยกระดับการแจ้งเตือนค่าฝุ่น ผ่าน Cell Broadcast อยู่ระหว่างหารือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พัฒนาระบบการพยากรณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้า 3-7 วัน และให้ประชาชนแจ้งปัญหาเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ผ่าน Traffy Fondue รวมทั้งการติดตั้ง Super Station Real Time เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์
- จัดทำห้องปลอดฝุ่น ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวันเรียนและระดับชั้นอนุบาล 1-3 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครให้ครบทุกห้อง
- Work From Home ในปีนี้เรามีเป้าหมายคนเข้าร่วม 300,000 คน จึงขอเชิญชวนลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นเครือข่าย Work From Home ซึ่งเราจัดทำแนวทางไว้ 2 รูปแบบคือ เมื่อกรุงเทพมหานครประกาศขอความร่วมมือ และ Work From Home ต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ตลอดเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2569
- ปลูกต้นไม้ล้านต้น เพื่อเป็นแนวกำแพงในการกรองฝุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่โซนตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ซึ่งตอนนี้มีประชาชนลงทะเบียนปลูกต้นไม้แล้วกว่า 2.2 ล้านต้น
“กรุงเทพมหานครมี 2 ฤดู คือฤดูฝนกับฤดูฝุ่น ขณะนี้ฤดูฝนเรื่องของน้ำท่วมผ่านไปแล้ว กำลังจะเข้าสู่ฤดูฝุ่น ปัจจัยหลัก ๆ ที่ก่อให้เกิดฝุ่นก็คือเรื่องรถยนต์ ซึ่งมีการใช้เครื่องยนต์ดีเซล การเผาชีวมวลจากพื้นที่รอบข้าง รวมถึงสภาพอากาศที่จะมาในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้น มาตรการเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งกรุงเทพมหานครนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงฤดูฝุ่นของปีนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ วันนี้เราได้เปิดโครงการ “Green List Plus โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5” จึงแสดงถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่ช่วยสนับสนุน พร้อมสู้ฝุ่นไปด้วยกัน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย
สำหรับโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ อาทิ กระทรวงพลังงาน กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบายฝุ่น PM2.5 จากภาคการขนส่ง ด้วยการเชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์ขนาดเล็กเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ และเปลี่ยนถ่ายนำมันเครื่อง จะสามารถลดการเกิดมลพิษและฝุ่นควันในไอเสียรถยนต์ได้อย่างมาก เพราะจากการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง จะสามารถลดควันดำได้มากกว่า 50% จึงส่งผลต่อเนื่องให้ฝุ่นในบรรยากาศลดลงได้เช่นกัน และในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และค่ายรถยนต์ให้การสนับสนุนจัดโปรโมชั่นต่อที่ 1 ให้ส่วนลดราคาค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ และให้ส่วนลดราคาค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ และค่าแรงสูงถึง 50% สำหรับรถยนต์ที่เข้ารับบริการกับศูนย์บริการรถยนต์ 9 แบรนด์ ได้แก่ อีซูซุ มิตซูบิชิ นิสสัน โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า ฮีโน่ ฟอร์ด และซูซูกิ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 1,745 ศูนย์บริการ หรือศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของผู้ค้าน้ำมัน 5 แห่ง ได้แก่ ปตท. บางจาก เชลล์ พีที และโมบิล รวมถึงศูนย์บริการบีควิก ที่เข้าร่วมโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” และลงทะเบียนบัญชีสีเขียวหรือ Green List Plus กับกรุงเทพมหานคร จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่อที่ 2 จากเครือข่ายเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอดวานส์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในการให้สิทธิการจอดรถยนต์ฟรีเพิ่มเติมในห้างเซ็นทรัล The mall และโลตัส ได้รับบัตรกำนัลค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS และส่วนลดราคาสำหรับการซื้อพรบ.รถยนต์หรือประกันภัยรถยนต์ผ่าน AIS ทั้งนี้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองได้ จึงขอเชิญชวนประชาชนนำรถยนต์เข้ามารับการบริการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ดังสโลแกนที่ว่า “ตรวจสภาพรถกันสักนิดลดมลพิษฝุ่นได้”
ในการนี้ นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี
—– (จิรัฐคม…สปส. รายงาน)


