(7 ต.ค. 68) เวลา 12.45 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตยานนาวา ประกอบด้วย

พัฒนาสวน 15 นาที สวนสันต์ชุมชน ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 30 แยก 8 ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาที่ว่าง ปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดทำทางเดิน ลานกีฬา ตั้งวางม้านั่ง ติดตั้งเครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่นเด็ก ชิงช้า ปลูกไม้พุ่ม ไม้ประดับ ไม้ยืนต้น อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.สวนเขตขวัญ พื้นที่ 1 ไร่ 73 ตารางวา 2.สวนปลุกสำราญ พื้นที่ 29.36 ตารางวา 3.สวนสุขอนันต์ พื้นที่ 1 ไร่ 59.25 ตารางวา สวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 15 แห่ง ได้แก่ 1.สวนประสานใจ พื้นที่ 1 งาน 72.40 ตารางวา 2.สวนฤทัยสมาน พื้นที่ 2 งาน 48.5 ตารางวา 3.สวนตระการเกษม พื้นที่ 2 ไร่ 1 งาน 15.24 ตารางวา 4.สวนเปรมพัฒน์ พื้นที่ 97.5 ตารางวา 5.สวนยานนาวาวัลย์บุปผา พื้นที่ 1 งาน 6.สวนร่มแมกไม้ พื้นที่ 3 งาน 6.25 ตารางวา 7.สวนผ่อนอารมณ์ พื้นที่ 3 งาน 55.25 ตารางวา 8.สวนยานนาวาประชาสวัสดิ์ พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 22.25 ตารางวา 9.สวนยลนที พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 82.75 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 10.สวนสันต์ชุมชน พื้นที่ 3 งาน 39 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 11.สวนประภัสสร พื้นที่ 3 งาน 74.58 ตารางวา 12.สวนวิวัฒน์ไกล พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 93.75 ตารางวา อยู่ระหว่างออกแบบสวน 13.สวนหน้าโลตัส พื้นที่ 3 งาน 45 ตารางวา อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ 14.สวนคลองมะนาว รัชดาภิเษก พื้นที่ 2 ไร่ 1 งาน 97.5 ตารางวา อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ 15.สวนรมณียสถาน วัดดอกไม้ พื้นที่ 1 ไร่ 50 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่เพื่อจัดทำสวน 15 นาที โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้เกิดประโยชน์ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ที่ผ่านมาเขตฯ จัดทำสวน 15 นาที ครบทั้ง 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว แต่ยังมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง จึงมีแนวคิดในการจัดทำสวน 15 นาทีเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง เมื่อแล้วเสร็จเขตฯ จะมีสวน 15 นาที (สวนใหม่) รวมทั้งสิ้น 15 แห่ง
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ บางกอกการ์เด้นคอนโดมิเนียม พื้นที่ 16 ไร่ จำนวน 8 อาคาร ห้องพัก 832 ห้อง มีพนักงาน 80 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2542 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะเศษอาหาร พนักงานจัดเก็บจากห้องพักขยะในแต่ละชั้น นำมายังจุดพักขยะกลาง เพื่อนำส่งให้แก่เกษตรผู้มารับซื้อไปทำอาหารสัตว์ 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิล พนักงานจัดเก็บจากห้องพักขยะในแต่ละชั้น นำมายังจุดพักขยะกลาง เพื่อจำหน่ายให้แก่พ่อค้าคนกลาง 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไป พนักงานจัดเก็บจากห้องพักขยะในแต่ละชั้น นำมายังจุดพักขยะกลาง เขตฯ จัดเก็บ 4.ขยะอันตราย คัดแยกขยะอันตราย พนักงานจัดเก็บจากห้องพักขยะในแต่ละชั้น นำมายังจุดพักขยะกลาง เขตฯ จัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 20,150 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 13,140 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 6,450 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 550 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 10 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้จัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขยะทั่วไป ที่สามารถแยกออกมาได้อีก ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามหมู่บ้าน ชุมชน คอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ปัจจุบันเริ่มจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่แล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
ตรวจจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI CAMERA บริเวณปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 20 เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บังคับการตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งเขตฯ ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ตั้งวางแผงเหล็กป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นบนทางเท้า จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเฝ้าระวังในจุดดังกล่าว
ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณหน้าตลาดรุ่งเจริญ ถนนสาธุประดิษฐ์ ซึ่งเขตฯ ได้จัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าใหม่ โดยให้ผู้ค้าทำการค้าบริเวณด้านนอกอาคารเพียงด้านเดียว พร้อมทั้งขีดสีตีเส้นกำหนดขอบเขตพื้นที่ทำการค้า ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน จำนวน 2 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 185 ราย ได้แก่ 1.หน้าตลาดรุ่งเจริญ ถนนสาธุประดิษฐ์ ฝั่งถนนสาธุประดิษฐ์ ตั้งแต่สี่แยกรัชดา-สาธุประดิษฐ์ ถึงปากซอยสาธุประดิษฐ์ 37 และฝั่งถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่สี่แยกรัชดา-สาธุประดิษฐ์ ถึงแยกถนนนนทรี ผู้ค้า 152 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 14.00-22.00 น. 2.หน้าตลาดนางลิ้นจี่ ถนนนางลิ้นจี่ ตั้งแต่หน้าอาคารเลขที่ 309/6 ถึงหน้าอาคารเลขที่ 317/8 ผู้ค้า 33 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-20.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 2 จุด ได้แก่ 1.หน้าปากซอยปริยานนท์ ถนนสาธุประดิษฐ์ ผู้ค้า 22 ราย 2.หน้าบริษัทไอซีซี ซอยสาธุประดิษฐ์ 58 ผู้ค้า 19 ราย ยกเลิกวันที่ 31 มีนาคม 2567 ผู้ค้าได้ย้ายมาทำการค้าในจุดที่เขตฯ จัดเตรียมไว้ ผู้ค้าบางส่วนเลิกทำการค้า ต่อมาในปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 1 จุด คือหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนพระรามที่ 3 ผู้ค้า 18 ราย ยกเลิกวันที่ 1 มกราคม 2568 ส่วนพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 1 จุด คือซอยสาธุประดิษฐ์ 19 ถนนสาธุประดิษฐ์ ทางเข้าอาคารฟอร์จูนทาวน์ ถึงทางออกอาคารฟอร์จูนทาวน์ ผู้ค้า 21 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-20.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 1 จุด คือปากซอยสาธุประดิษฐ์ 49 ถนนสาธุประดิษฐ์ ผู้ค้า 22 ราย ยกเลิกวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้ค้าบางส่วนย้ายเข้าไปทำการค้าบริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ส่วนพื้นที่ทำการค้าซอยนางลิ้นจี่ 5/1 ถนนนางลิ้นจี่ ตั้งแต่ซอยนางลิ้นจี่ 5/1 ถึงซอยนางลิ้นจี่ 3 ผู้ค้า 8 ราย เขตฯ ได้ย้ายผู้ค้าบริเวณดังกล่าว เข้าไปทำการค้าบริเวณที่ว่างด้านข้าง 7-11 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดจากการจอดรถขายสินค้า นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำ Hawker Center จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.บริเวณข้างปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนสาธุประดิษฐ์ 49 สามารถรองรับผู้ค้าได้ 6 ราย จัดเก็บค่าเช่าในอัตราที่ตลาดกำหนด 2.พื้นที่เอกชนด้านข้างธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนพระราม 3 สามารถรองรับผู้ค้าได้ 50 ราย จัดเก็บค่าเช่าในอัตราที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ดูแลความเป็นระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 แพลนท์ปูนบริษัท ชลประทานคอนกรีต จำกัด ถนนยานนาวา ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ต่อเนื่องจากเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการปรับปรุงรั้วโดยรอบแพลนท์ปูนให้มีความสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตร โดยด้านล่างให้เป็นรั้วทึบ 4 เมตร ด้านบนเป็นรั้วโปร่ง 2 เมตร ปรับปรุงบ่อคายกากคอนกรีตและบ่อตกตะกอนไม่ให้มีตะกอนสะสมจนทำให้น้ำปูนล้นออกมา ล้างทำความสะอาดพื้นไม่ให้มีน้ำปูนหรือเศษหินเศษทรายตกค้าง ฉีดล้างล้อรถโม่ปูนทุกครั้งก่อนออกจากแพลนท์ปูน ตรวจสอบเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตรวจวัดค่าควันดำรถโม่ปูนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทสถานประกอบการ/โรงงาน 34 แห่ง ประเภทสถานที่ก่อสร้าง 8 แห่ง ประเภทแพลนท์ปูน 4 แห่ง ประเภทการสะสมซีเมนต์ หิน ดิน ทราย วัสดุก่อสร้าง 1 แห่ง ประเภทอู่รถสองแถว 3 แห่ง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน
ติดตามการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ วินหน้าอาคารสมนึก สุขศรีการ ถนนยานนาวา ผู้ขับขี่ 8 คน สถานที่ตั้งวินและจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่บนทางเท้า ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 119 วิน ผู้ขับขี่ 1,867 คน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาให้เป็นวินต้นแบบ 24 วิน โดยมีความสะอาดเป็นระเบียบ ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่งกายเรียบร้อย ไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร สถานที่ตั้งวินไม่กีดขวางการสัญจร ซึ่งเขตฯ ได้ตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่ถูกต้องตามเกณฑ์จะแจ้งข้อบกพร่องให้ผู้ขับขี่รับทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย สำหรับแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวิน เบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารถูกต้อง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด อาทิ การแต่งกาย ป้ายทะเบียนรถ อัตราค่าโดยสาร สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร
ในการนี้มี นายอิทธิพล อิงประสาร ผู้อำนวยการเขตยานนาวา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตยานนาวา สำนักเทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #ปลอดภัยดี #บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)


