
(29 ก.ย. 68) เวลา 09.15 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ประกอบด้วย
พัฒนาสวน 15 นาที สวนหย่อมท่าเรือผ่านฟ้า ซึ่งเขตฯ ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตั้งวางม้านั่ง ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับ ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหย่อมวงเวียน 22 กรกฎา พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 2.สวนหย่อมจักรพรรดิพงษ์ พื้นที่ 9 ตารางวา 3.สวนหย่อมและลานกีฬาศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี พื้นที่ 2 งาน 4.สวนริมคลองผดุงกรุงเกษม (แยกมัฆวาน-แยกเทวกรม) พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 5.ลานกีฬาทรัพย์สินพัฒนา นางเลิ้งรวมใจ พื้นที่ 1 งาน 60 ตารางวา 6.สวนหย่อมโรงเรียนวัดโสมนัส พื้นที่ 50 ตารางวา 7.สวนหย่อมท่าเรือผ่านฟ้า พื้นที่ 20 ตารางวา 8.สวนหย่อมสะพานขาว พื้นที่ 70 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 9.สวนหย่อมโบ๊เบ๊ พื้นที่ 1 งาน 57 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 10.สวนมัสยิดมหานาค พื้นที่ 1 งาน อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่จัดทำสวน 15 นาที ให้ครบ 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกแบบพื้นที่ภายในสวนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในสวนอย่างแท้จริง
ติดตามการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ วินสวนหย่อมหน้ากรมโยธาธิการ ผู้ขับขี่ 17 คน สถานที่ตั้งวินอยู่บนทางเท้า และจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่บนผิวจราจร ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 65 วิน ผู้ขับขี่ 239คน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาให้เป็นวินต้นแบบ 10 วิน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด อาทิ การแต่งกาย ป้ายทะเบียนรถ อัตราค่าโดยสาร สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร ซึ่งเขตฯ ได้ตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่เรียบร้อยให้แจ้งข้อบกพร่องแก่ผู้ขับขี่ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย โดยแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวิน เบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารถูกต้อง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ
ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณตรอกอิสรานุภาพ ถนนเจริญกรุง ผู้ค้า 33 ราย ซึ่งเป็นจุดที่เขตฯ พิจารณายกเลิกจุดทำการค้า เนื่องจากเขตฯ มีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และระบบระบายน้ำภายในตรอกอิสรานุภาพ อีกทั้งตรอกดังกล่าวมีขนาดเล็กและคับแคบ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ ถือว่าเป็นจุดเสี่ยงหากเกิดอัคคีภัย ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ตรวจสอบแนวเขตทางที่อยู่ในโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ แนวระบบไฟฟ้าของรฟม. บ่อพักของการไฟฟ้านครหลวง บ่อพักน้ำและแนววางท่อระบายน้ำ รวมถึงแนวเขตอาคารภายในตรอกดังกล่าว ปัจจุบัน เขตฯ มีพื้นที่ทำการค้า จำนวน 2 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 52 ราย ได้แก่ 1.ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลกว๋องสิว ถึงแยกหมอมี รวมผู้ค้า 24 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 09.00-16.00 น. ผู้ค้า 12 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 18.00-24.00 น. ผู้ค้า 12 ราย 2.ถนนวรจักร ตั้งแต่หน้าบ้านเลขที่ 232 ถึง 90-92 รวมผู้ค้า 28 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 09.00-15.00 น. ผู้ค้า 25 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 18.00-24.00 น. ผู้ค้า 3 ราย ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 2 จุด ได้แก่ 1.ถนนดำรงรักษ์ ฝั่งโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ผู้ค้า 43 ราย 2.ถนนดำรงรักษ์ ฝั่งกระทรวงพัฒนาสังคม ผู้ค้า 28 ราย ยกเลิกวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ต่อมาในปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าอีก 10 จุด ได้แก่ 1.ถนนเฉลิมเขต 2 ฝั่งธนาคารกรุงไทย ผู้ค้า 4 ราย 2.ถนนยุคล 2 ผู้ค้า 4 ราย 3.ถนนเจริญกรุง (ปากซอยศรีธรรมาธิราช) ผู้ค้า 4 ราย 4.ถนนมหาจักร ตั้งแต่ถนนเจ้าคำรบ ถึงถนนเจริญกรุง ผู้ค้า 27 ราย 5.ถนนเจ้าคำรบ ตั้งแต่ถนนวรจักร ถึงถนนมหาจักร ผู้ค้า 13 ราย 6.วงเวียน 22 กรกฎาคม (หน้าอาคารหมอมี) ผู้ค้า 5 ราย ยกเลิกวันที่ 1 มกราคม 2568 7.สวนมะลิ 1 ผู้ค้า 11 ราย ยกเลิกวันที่ 23 มกราคม 2568 8.ถนนพลับพลาไชย หน้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน้าวัดคณิกาผล ผู้ค้า 12 ราย ยกเลิกวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 9.ถนนพะเนียง ฝั่งวัดโสมนัส ผู้ค้า 11 ราย ยกเลิกวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 10.ตรอกอิสรานุภาพ ถนนเจริญกรุง ผู้ค้า 33 ราย ยกเลิกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 โดยผู้ค้าส่วนหนึ่งเข้าไปทำการค้าในอาคารพาณิชย์เอกชนบริเวณใกล้เคียง บางส่วนย้ายไปทำการค้าบริเวณตลาดส้ม ตลาดสะพานขาว โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ตลาดวรจักร คลองถมเซ็นเตอร์ อาคารแคปปิตอล เสือป่าพลาซ่า และอาคาร 555
ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 บริษัทไชน่าทาวน์แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างอาคารค.ส.ล. ความสูง 11 ชั้น ชั้นลอย 1 ชั้น ชั้นใต้ดิน 5 ชั้น ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ.2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ.2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด ตรวจสอบแนวรั้วโดยรอบโครงการให้มีความมั่นคงแข็งแรงและอยู่ในระดับความสูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 6 เมตร เปิดเครื่องพ่นละอองน้ำตลอดเวลาที่ทำการก่อสร้าง ฉีดล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุกก่อนออกจากโครงการ ติดตั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศและจอแสดงผลด้านหน้าโครงการ ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน
ตรวจจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI CAMERA บริเวณหน้าโรงพยาบาลหัวเฉียว เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งเขตฯ ได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ตั้งวางรั้วเหล็กบนทางเท้า จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจตราในจุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ชุมชนมัสยิดมหานาค พื้นที่ 23 ไร่ ประชากร 933 คน บ้านเรือน 353 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2568 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ บ้านที่เข้ารวมโครงการไม่เทรวม จะรวบรวมขยะอินทรีย์จัดเก็บคัดแยกขยะเศษอาหาร 2.ขยะรีไซเคิล บ้านที่ลงทะเบียนคัดแยกขยะกับกทม. จะรวบรวมขยะรีไซเคิล รอจำหน่ายเอง ส่วนขยะรีไซเคิลที่เหลือจากการคัดแยก เขตฯ จะนำไปจำหน่าย รวบรวมเข้าโครงการผ้าป่าขยะรีไซเคิล 3.ขยะทั่วไป ตั้งจุดรองรับขยะทั่วไปทุกชั้นของชุมชนมัสยิดมหานาคและโดยรอบชุมชน เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 4.ขยะอันตราย ตั้งจุดรองรับขยะอันตราย เขตฯ จัดเก็บไปกำจัดอย่างถูกวิธี สำหรับปริมาณขยะก่อนและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 1,750 กิโลกรัม/วัน หลังคัดแยก 1,681 กิโลกรัม/วัน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 15 กิโลกรัม/วัน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 50 กิโลกรัม/วัน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 4 กิโลกรัม/วัน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้จัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามชุมชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” โดยจะมีผลบังคับใช้อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ในเดือนตุลาคม 2568
ในการนี้มี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #ปลอดภัยดี#บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)


