(15 ก.ย. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และจุดจอดรถประจำทาง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ภายหลังมีมติอนุมัติงบประมาณว่านี่คือการปรับปรุงภูมิทัศน์ อนุสาวรีย์ชัยฯ ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ที่จะเปลี่ยนบริบทการค้า ปรับเปลี่ยนพื้นที่ เชื่อมทางเดินskywalk พร้อมปรับจุดจอดรถประจำทางให้ดีกว่าเดิม เติมเต็มกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองเดินทางดี ที่พร้อมสนับสนุน Car Free Every เดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้ทุกวัน

สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และจุดจอดรถประจำทาง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในรอบ 20 ปี เมืองได้ใช้การนำ ‘พฤติกรรมของผู้ใช้งาน’ เป็นสารตั้งต้นในการออกแบบพื้นที่สาธารณะ โดยใช้หลักการทางผังเมือง ภูมิสถาปัตย์ การขนส่ง ประกอบเข้าด้วยกันเพื่อได้ผลลัพธ์ที่ ขึ้นรถง่าย มีหลังคาคลุมทางเดิน ระยะเดินสั้นที่สุด กายภาพโปร่ง ล้อไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพิ่มพื้นที่ทางเท้า เพิ่มทางม้าลาย ออกแบบโดยหลัก Universal Design เพื่อทุกคน และเพิ่มต้นไม้ พร้อมสะพานลอยที่จะเดินเชื่อมทั้ง 4 เกาะ รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ และ Skywalk ราชวิถี ที่เชื่อม 8 โรงพยาบาล จากอนุสาวรีย์ชัยฯ ถึงแยกตึกชัย
นอกจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่และทางเดินแล้ว ยังออกแบบการใช้สอยพื้นที่จอดรถเมล์ใหม่ให้เต็มประสิทธิภาพ โดยกระจายการจอดรถเมล์ออกไป ใช้พื้นที่ทุกเลเยอร์ เพื่อลดความหนาแน่นในจุดเดียว ลดการจอดซ้อน 2 เลน ให้ประชาชนสังเกตรถเมล์ที่จะเข้ามาได้ง่าย และแบ่งจุดจอดแบบใหม่ โดยหลักการ ต้น/ปลายสาย จอดพื้นที่หลัก สายที่วิ่งผ่าน จอดพื้นที่เกาะ และจับกลุ่มตามปลายทาง
โดยการปรับปรุงทั้งหมดนี้ เพื่อประโยชน์ในการสัญจรของประชาชน พร้อมสนับสนุนระบบขนส่งสาธารณะให้เชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพได้ครบในที่เดียว ทั้ง รถเมล์ รถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ ทางเดินเท้า Skywalk และเชื่อมต่อรถไฟฟ้า ลดความวุ่นวายซับซ้อนในการเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง เพื่อก้าวสู่เมืองที่ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้ทุกวัน เป็น Car Free Everyday อย่างยั่งยืน
“อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้รถเมล์และระบบขนส่งสาธารณะ การพัฒนาพื้นที่รอบเกาะอนุสาวรีย์ครั้งนี้ กทม. มุ่งเน้นการออกแบบโดยยึดพฤติกรรมการใช้งานจริงของประชาชนเป็นหลัก ทั้งการปรับจุดจอดรถเมล์ให้สะดวกขึ้น การเพิ่มพื้นที่ทางเดิน และการเชื่อมต่อด้วยสกายวอล์กโดยรอบอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้การเดินและการเปลี่ยนเส้นทางขนส่งมวลชนเป็นไปอย่างราบรื่น เราเชื่อว่าการออกแบบเมืองที่ดีจะไม่เพียงทำให้กรุงเทพฯ น่าอยู่ขึ้นสำหรับทุกคน แต่ยังช่วยสร้างวัฒนธรรมการใช้ขนส่งมวลชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะขยายไปสู่การพัฒนาพื้นที่อื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ต่อไป” โฆษก กทม. กล่าว
#เดินทางดี #กทม #CarFreeEveryday