(29 ส.ค. 68) แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรพร้อมเข็มเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “นคราธิปัตย์” “นคราภิบาล” และ “นคราพิทักษ์” หลักสูตรการฝึกอบรมนักบริหารมหานครระดับสูง รุ่นที่ 22 และรุ่นที่ 23 หลักสูตรการฝึกอบรมนักบริหารมหานครระดับกลาง รุ่นที่ 33 และรุ่นที่ 34 หลักสูตรการฝึกอบรมนักบริหารมหานครระดับต้น รุ่นที่ 46 และรุ่นที่ 47 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องอัมรินทร์ ชั้น 3 โรงแรมเอส ดี อเวนิว เขตบางพลัด โดยมีคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ก.ก.) และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในชีวิตเราหลายครั้งจะต้องตัดสินใจเลือก จะต้องตัดสินใจทำอะไรเพื่อสิ่งที่ดีสุดในสถานการณ์ที่จำกัดทั้งเวลา ทรัพยากร และเงื่อนไขอื่น ๆ หวังว่าทุกคนที่ผ่านการฝึกอบรมทั้ง 6 รุ่นใน 3 ระดับ จะได้มีความทรงจำเล็ก ๆ เป็นความภาคภูมิใจที่จะบอกว่า ไม่ใช่แค่การอบรม ไม่ใช่แค่ผ่านการอบรม แต่หวังว่าทุกคนจะนำความรู้ ความเข้าใจ และศักยภาพที่ถูกพัฒนาในช่วงการอบรมไปพัฒนางาน คาดหวังว่าทุกคนจะได้เติบโตมาอีกระดับหนึ่ง โตมาจากอีกจุดหนึ่งที่เราเป็น มีอะไรที่เพิ่มขึ้นบ้าง และจะนำเอาสิ่งที่เพิ่มขึ้นไปทำอะไร ทำให้เกิดผล ทำให้เกิดประโยชน์ต่องานที่ต้องทำ กรุงเทพมหานครมีหน้าที่บริการ เลี่ยงไม่ได้ หลบไม่ได้ ท้อถอยไม่ได้ เรามีเนื้อหาและเรื่องราวที่ต้องจัดระเบียบ ซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมืองเป็นหน้าที่ของเรา ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าที่ไหน ตำแหน่งไหน ทุกคนคือห่วงโซ่และฟันเฟืองที่สำคัญขององค์กรกรุงเทพมหานคร ขอให้ภูมิใจในจุดที่ยืนอยู่ ในจุดที่เป็น และในจุดที่ทำ ทำให้ฟันเฟืองเชื่อมร้อยและทำให้งานพัฒนาเมืองที่ตั้งใจจะให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคนเกิดขึ้นจริงภายใต้บริบทและหน้าที่ของเรา
ปลัดฯ วันทนีย์ กล่าวด้วยว่า หลักสูตรนักบริหารมหานครของกรุงเทพมหานครที่ สำนักงาน ก.ก. ได้พยายามคิด พัฒนา ปรับปรุงภายใต้ข้อแนะนำของคณะกรรมการหลักสูตรนั้น ต้องการทำให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถเป็นผู้บริหารที่จะสามารถบริหารตนเอง บริหารงาน และคนได้อย่างดี วิชาเหล่านี้เป็นวิชาชีวิตในการทำงาน ซึ่งจะครองตน ครองคน ครองงานให้ได้ หากไม่เอาไปทำก็ไม่เกิดประโยชน์ สิ่งที่นักบริหารจำเป็นต้องมี ต้องเป็น ต้องทำ ได้เรียนรู้หมดแล้ว ขอให้นำไปใช้ อยากย้ำอีกครั้งว่าถ้า Mindset ไม่ถูกปรับ การเปลี่ยนแปลงด้านอื่น ๆ ก็จะเป็นเรื่องยากลำบาก คาดหวังว่าในวันหนึ่งข้างหน้าทุกคนจะก้าวหน้าทั้งร่างกายและจิตใจ จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สำคัญเท่า Mindset ที่ต้องรักษา อะไรเกิดขึ้นดีเสมอ หาจุดบวกให้เจอในสถานการณ์นั้น ๆ จะมีพลังและมีความสุข สิ่งที่จะต้องเผชิญต่อไปข้างหน้าจะยากขึ้น ท้าทายขึ้น ความรับผิดชอบต่อหน้าที่เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ จะต้องเป็น ขอบคุณที่ทุ่มเทและตั้งใจให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยความเรียบร้อยอย่างดี ขอให้ทุกคนมีความสุข มีพลัง ที่จะสร้างและพัฒนาองค์กรต่อไป
ทั้งนี้การพัฒนานักบริหารมหานครมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการบริหาร เสริมสร้างวิสัยทัศน์ การพัฒนาภาวะผู้นำ เสริมสร้างประสบการณ์ และการบูรณาการความรู้ อีกทั้งส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนสร้างเครือข่ายนักบริหารกับหน่วยงานต่างสังกัด หลักสูตรนักบริหารมหานคร ทั้ง 3 ระดับ กำหนดเกณฑ์การประเมินผลสำเร็จการฝึกอบรม คือต้องมีระยะเวลาในการอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีคะแนนภาควิชาการและภาคพฤติกรรม สมรรถนะนักบริหาร รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และต้องเข้าร่วมครบทุกกิจกรรมตามที่หลักสูตรกำหนด ซึ่งปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีผู้สำเร็จการฝึกอบรมทั้ง 3 หลักสูตร เป็นข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน 319 คน และเป็นบุคลากรจากหน่วยงานต่างสังกัด จำนวน 18 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 337 คน ประกอบด้วย หลักสูตรนักบริหารมหานครระดับสูง รุ่นที่ 22 และ 23 จำนวน 86 คน หลักสูตรนักบริหารมหานครระดับกลาง รุ่นที่ 33 และ 34 จำนวน 127 คน และหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับต้น รุ่นที่ 46 และ 47 จำนวน 124 คน โดยมีบุคลากรจากหน่วยงานต่างสังกัดที่สำเร็จการฝึกอบรม จำนวน 6 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง
#กทม #บริหารจัดการดี
———————————– (พัทธนันท์…สปส. รายงาน)
