(16 ส.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “มอญมาร์เก็ต” ณ มูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ (Art for All Village) ถนนประชาร่วมใจ 31 เขตคลองสามวา
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่เกิดจากการร่วมมือกันของผู้คนในสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งงานมอญมาร์เก็ต (Mon Market) ที่จัดขึ้น ณ มูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ เขตคลองสามวา นี้ เป็นการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็งของชุมชนมอญแป้นทอง และเชื่อว่ามีพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ด้วย
จากนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวชื่นชมมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ที่ได้ใช้พลังแห่งศิลปะในการพัฒนาศักยภาพคนพิการและผู้ด้อยโอกาสมาตลอด 3 ทศวรรษ
“น้อง ๆ ทุกคนในที่นี้เป็นคนพิเศษ และกรุงเทพมหานครมีนโยบายที่ชัดเจนว่า อยากจะให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ซึ่งทุกคนก็คือรวมทุกคนที่เป็นคนพิเศษของเราด้วย ที่ผ่านมาต้องขอบคุณมูลนิธิฯ ที่ใช้ศิลปะในการพัฒนาศักยภาพให้คนเหล่านี้เข้มแข็ง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้กล่าวถึงความพยายามของกรุงเทพมหานครในการสนับสนุนกลุ่มคนพิเศษ โดยได้มีการปรับปรุงฟุตพาท/ทางเท้า การมีโรงเรียนให้กับเด็กพิเศษ การจ้างงานคนพิการไปแล้วกว่า 400 คน และมีผู้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการด้วย พร้อมทั้งได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือกัน เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนสามารถอยู่ในเมืองได้อย่างมีความสุข
สำหรับงานมอญมาร์เก็ต (Mon Market) ณ มูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ จัดขึ้นเพื่อธำรงรักษาประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น และเป็นการส่งเสริมพื้นที่คลองสามวาที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตของชาวไทยมอญไว้ โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ ซึ่งได้มีการจัดค่ายฯ ขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคม 2568 ณ อาคารรัฐสภา และมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ เพื่อพัฒนาศักยภาพคนพิการและผู้ด้อยโอกาสโดยใช้พลังแห่งศิลปะ และเพื่อให้กำลังใจคนพิการที่เข้าร่วมกิจกรรม
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ประธานผู้ก่อตั้งมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ ได้กล่าวว่า มูลนิธิฯ ดำเนินงานมา 30 ปี หรือ 3 ทศวรรษ ในการพัฒนาผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสแบบองค์รวม โดยมีแนวคิดให้คนตาบอดเป็นปาก คนหูหนวกเป็นตา ผู้ขาดแขนขาแต่มีสติปัญญาเป็นสมอง และคนปัญญาอ่อนที่ร่างกายสมบูรณ์เป็นแรงกาย ผ่านการประสานงานโดยคนไม่พิการที่มีจิตใจงดงาม โดยเชื่อว่า 5 คนรวมกันเป็น 1 อัจฉริยะ
ทั้งนี้ ในฐานะที่เคยเป็นคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จึงใช้ศิลปะทุกแขนง ได้แก่ ทัศนศิลป์ นฤมิตศิลป์ ดุริยางคศิลป์ นาฏยศิลป์ และวรรณศิลป์ เป็นเครื่องมือในการพัฒนา
กิจกรรมค่ายฯ ที่จัดขึ้นครั้งนี้ มีเยาวชนเข้าร่วม 150 คน รวมถึงอาสาสมัคร ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และชาวอาเซียน โดยวานนี้ (15 ส.ค. 68) เป็นการประชุมภายในอาคารรัฐสภา ส่วนกิจกรรมวันนี้เป็นเชิงปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. แบ่งเป็น 6 ช่วง แต่ละช่วงมี 13 ฐานกิจกรรม เช่น งานวาด งานปั้น งานพิมพ์ งานประดิษฐ์ งานออกแบบ รวมถึงดนตรีและนาฏศิลป์ เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ศิลปกรรมทุกชนิด และทราบว่าตนเองมีศักยภาพอะไรเพื่อนำไปพัฒนาตนเองต่อไป
ศ.ดร.ชาญณรงค์ เน้นย้ำว่า การเรียนรู้ศิลปะจะทำให้เกิด ความเอื้ออาทร ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจมนุษย์มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาตนเองและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้
ด้าน นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองสามวา กล่าวว่า ในฐานะรองประธานสภาวัฒนธรรมเขตคลองสามวา มีความรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสพัฒนาศิลปะ และภูมิใจในวัฒนธรรมมอญแป้นทองในกรุงเทพมหานครที่มีความเข้มแข็ง ขอบคุณผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ให้โอกาสมาร่วมงานของคนมอญ 2 ปีซ้อน ขอบคุณผู้อำนวยการเขตที่ให้การสนับสนุนในการพัฒนาพื้นที่ วันนี้เราได้นำมอญมาร์เก็ตหรือตลาดมอญเล็ก ๆ มาจัดแสดงให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมกิจกรรม รวมทั้งได้ชิมและลองทำขนม
“ศิลปะและวัฒนธรรมเป็นเรื่องที่ต้องสืบสานต่อไป และน้อง ๆ ทุกคนก็สามารถทำได้ด้วยการเรียนรู้ จดจำ และนำไปประยุกต์ในแบบของตนเอง” ส.ก.นฤนันมนต์ กล่าว
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า รายได้จากการจำหน่ายสินค้าในมอญมาร์เก็ต หลังหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้กับมูลนิธิ Art for All ทั้งหมด เพื่อนำไปต่อยอดจัดกิจกรรมในปีถัดไป
สำหรับพิธีเปิดงานมอญมาร์เก็ตวันนี้มี นางธัญนภัส มณีศรี ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ ประชาชนในพื้นที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน
—————————
