
(4 ก.ค. 68) เวลา 10.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร นายคุณานพ เลิศไพรวัลย์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักเทศกิจ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องกรุงธน 3 ชั้น 5 อาคาร 2 สำนักเทศกิจ เขตธนบุรี
“การจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้านั้น ผู้อำนวยการเขตและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขต มีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าปี 67 ฝากให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทุกสำนักงานเขต ดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พิจารณาตามหลักเกณฑ์ทำการค้า กำหนดพื้นที่ให้เป็นจุดผ่อนผันหรือยกเลิกพื้นที่ทำการค้า เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ ประชาชนใช้ทางเท้าในการสัญจรได้สะดวกและปลอดภัย” รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ย้ำในการประชุม
ในที่ประชุมได้รายงานผลการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเดิมในปี 2565 มีพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน 86 จุด ผู้ค้า 4,500 ราย พื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน 741 จุด ผู้ค้า 16,838 ราย ปัจจุบันในปี 2568 มีพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน 59 จุด ผู้ค้า 3,771 ราย พื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน 321 จุด ผู้ค้า 9,920 ราย ที่ผ่านมาคณะกรรมการตรวจประเมินพื้นที่ 3 ระดับ ได้แก่ 1.ระดับสำนักงานเขต โดยมีผู้อำนวยการเขต ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ฝ่ายเทศกิจ ตัวแทนผู้ค้า เจ้าของอาคาร 2.ระดับสำนักเทศกิจ และ 3.ระดับผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร ทำการตรวจประเมินเดือนละ 1 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายน 2568 พื้นที่ทำการค้าใดผ่านการประเมินตามแนวทางที่กำหนด เช่น การรับฟังความคิดเห็น การกลั่นกรองของคณะกรรมการระดับเขตและระดับกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะพิจารณาความเห็นชอบให้เป็นจุดผ่อนผันหรือพื้นที่ทำการค้าต่อไป ส่วนจุดทำการค้าใดที่ไม่ผ่านการประเมินจะต้องบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย หากสำนักงานเขตมีความเห็นว่าจุดทำการค้าดังกล่าวมีความเหมาะสมในการจัดทำเป็นพื้นที่อัตลักษณ์ ให้เสนอยกเว้นหลักเกณฑ์ทำการค้า ทั้งนี้ จากผลการตรวจประเมินของคณะกรรมการ ดังนี้ พื้นที่ทำการค้าตามหลักเกณฑ์ 51 จุด ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ 301 จุด มีความเหมาะสมเป็นจุดผ่อนผัน 128 จุด ยกเลิกระหว่างตรวจประเมิน 32 จุด สำหรับความต้องการของเขตฯ มีดังนี้ ขอเสนอเป็นจุดผ่อนผัน 43 จุด ขอยกเว้นหลักเกณฑ์ 67 จุด ขอยกเลิกพื้นที่ทำการค้า 182 จุด รอหลักเกณฑ์พื้นที่อัตลักษณ์ 42 จุด อื่น ๆ 46 จุด ในส่วนของการพิจารณาหารือร่วมกับรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดังนี้ ให้ผลักดันเป็นจุดผ่อนผัน 42 จุด เสนอยกเว้นหลักเกณฑ์ 64 จุด ยกเลิกพื้นที่ทำการค้า 188 จุด รอหลักเกณฑ์พื้นที่อัตลักษณ์ 43 จุด อื่น ๆ 43 จุด ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเขตฯ ที่ไม่มีพื้นที่ทำการค้า จำนวน 4 เขต ได้แก่ สายไหม คลองสามวา พระโขนง บางกอกใหญ่ นอกจากนี้ สำนักงานเขต จะต้องกำชับผู้ค้าให้ร่วมกันล้างทำความสะอาดพื้นที่ทำการค้าหลังเลิกทำการค้าในแต่ละวัน หรือทุกวันจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดทำการค้า การติดตั้งถังดักไขมันในร้านค้าที่มีการประกอบอาหาร มีการล้างภาชนะและอุปกรณ์ การจัดทำทะเบียนข้อมูล บัตรประจำตัว และคิวอาร์โค้ดให้ผู้ค้า
ต่อมาในที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาซากยานยนต์จอดทิ้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ตรวจพบซากยานยนต์ 1,631 คัน เจ้าของเคลื่อนย้าย 1,355 คัน สำนักงานเขตเคลื่อนย้าย 276 คัน เปรียบเทียบปรับ 75 คัน เป็นเงิน 153,500 บาท และขายทอดตลาด 125 คัน เป็นเงิน 855,200 บาท ปัจจุบันมีซากยานยนต์ที่เก็บไว้บริเวณสถานที่เก็บรักษาของกลาง ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม รวมทั้งหมด 65 คัน รวมถึงติดตามการดำเนินงานตรวจจับผู้กระทำผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ผ่านระบบ BMA AI CAMERA ตลอดจนการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขพื้นที่รกร้างว่างเปล่าและปัญหาการลักลอบทิ้งขยะ การตรวจสอบความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในสวนสาธารณะ
#เศรษฐกิจดี #บริหารจัดการดี #ปลอดภัยดี #เดินทางดี
—– (จิรัฐคม…สปส. รายงาน)
 
								 
								 
															

