
(7 มิ.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรมและแถลงข่าวเปิดงาน “ตรวจสุขภาพคนไร้บ้าน” และ “บ้านอิ่มใจ” ณ บ้านอิ่มใจ (ประปาแม้นศรี) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายที่มาร่วมกัน เรามีโครงการตรวจสุขภาพฟรี 1 ล้านคน ในขณะเดียวกันคนไร้บ้านบางครั้งจะอยู่นอกระบบตกสำรวจ ซึ่งเขาก็เป็นประชาชนเหมือนพวกเราทุกคน มีสิทธิและศักดิ์ศรีเหมือนกัน และโครงการตรวจสุขภาพคนไร้บ้านเป็นโครงการต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว คาดว่าจะตรวจได้ประมาณ 300 – 400 คน และเชื่อว่าจะมีข้อมูลเดิมต่อเนื่องมาด้วย วันนี้ไม่ใช่แค่ให้บริการตรวจสุขภาพแต่ยังให้บริการทำบัตรประชาชนรวมถึงดูเรื่องหางานให้ด้วย เพื่อให้พี่น้องคนไร้บ้านมีสถานะชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับประปาแม้นศรีแห่งนี้ กทม. ทำการเช่าพื้นที่มาเพื่อเตรียมเป็นศูนย์ดูแลคนไร้บ้าน เรียกว่าบ้านอิ่มใจ เป็นศูนย์พักชั่วคราวและเป็นจุดสำหรับผู้ที่จะนำของมาช่วย จะได้รวมไว้อยู่ที่นี่ คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม 2569 จำนวน 200 เตียง เป็นสถานที่ที่ไม่ได้ให้อยู่อาศัยถาวร แต่เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้ได้มาฟื้นร่างกายและจิตใจ ตั้งหลักชีวิตและเดินต่อไป ทั้งนี้ หลังเปิดบ้านอิ่มใจแล้ว ยืนยันว่าโครงการตรวจสุขภาพประจำปีคนไร้บ้านจะยังดำเนินการต่อ
ในส่วนปัญหาที่คนไร้บ้านไม่เข้าระบบและไม่ค่อยตรวจสุขภาพนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า หากเรามีบริการที่ดีทุกคนก็อยากจะมา ไม่มีใครอยากไปนอนข้างถนน ทุกคนอยากมีงานทำ มีบ้านอยู่ บางคนอาจจะมีความโชคร้ายในชีวิตหน้าที่เราคือต้องช่วยดูแลประคองให้เขากลับมาสู่สภาพปกติและเป็นทรัพยากรที่สำคัญของสังคมได้
ด้านภาพรวมคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ จากการสำรวจด้วยการแจงนับ (One Night Count) เมื่อเทียบกับปีก่อนจำนวนลดลงเล็กน้อยจากประมาณ 1,300 คน เหลือ 1,271 คน อีกรูปแบบคือคนจนเมือง บางคนมีบ้านอยู่อาศัยแต่ก็มารับอาหารแจก ซึ่งเราต้องพยายามจำแนกกลุ่มให้ชัดเจน และส่วนใหญ่คนไร้บ้านจะกระจุกอยู่ตามจุดที่มีคนให้อาหาร เช่น ตรอกสาเก ริมถนนราชดำเนิน จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าคนไร้บ้านเยอะ วิธีหนึ่งที่ทำคือการจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับคนที่อยากแบ่งปันแจกอาหารคนไร้บ้าน มี 2 จุด คือ ใต้สะพานพระปิ่นเกล้าและตรอกสาเก ทั้งนี้ ต่อไปขอให้มาที่ประปาแม้นศรีที่แห่งนี้จะได้เป็นจุดเดียวในการบริหารจัดการ และนำคนไร้บ้านกลับเข้าสู่ระบบ
“หลายคนอาจจะกลัวคนไร้บ้าน แต่เชื่อว่าคนไร้บ้านส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย บางคนก็เหมือนพวกเราทุกคนแต่อาจโชคร้ายไม่มีงานทำ อาจมีผู้ที่ป่วยจิตเวชบ้างแต่จำนวนน้อย หากพบปัญหาสามารถแจ้งเข้ามาได้ กรุงเทพมหานครจะเข้าไปช่วยดูแล” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
สำหรับการควบคุมขอทานในพื้นที่กรุงเทพฯ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เราตรวจอย่างเข้มงวด โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ขอทานต่างชาติ และ 2. ขอทานคนไทย ต่างชาติต้องส่งกลับอย่างเดียวเพราะมาผิดกฎหมาย และหลายคนที่มีการนำเด็กมาขอทานจะเป็นต่างชาติเยอะ ส่วนขอทานคนไทยต้องช่วยดูแลพยายามแก้ที่ต้นเหตุซึ่งก็ต้องร่วมมือกับทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งมีหน่วยลงพื้นที่ตลอด ทั้งนี้ หากพบปัญหาขอทานหรือขอทานเด็กขอให้ช่วยแจ้งพิกัดเข้ามาที่ Traffy Fondue สายด่วน กทม .1555 หรือสายด่วน พม. 1300
สำหรับการตรวจสุขภาพคนไร้บ้าน ปีที่ 2 ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ศูนย์บริการสาธารณสุข 20 ป้อมปราบศัตรูพ่าย สำนักอนามัย มูลนิธิกระจกเงา และเครือข่ายภาคประชาสังคมและเอกชน ให้บริการตรวจสุขภาพตั้งแต่เวลา 07.00 – 12.00 น. ได้แก่ ตรวจเลือด ตรวจปอด ตรวจหัวใจ ตรวจสุขภาพจิต ตรวจอายุรกรรม ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เมื่อตรวจเสร็จนัดรับผล หากมีปัญหาสุขภาพจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลพาพบแพทย์กินยารักษาต่อไป และโอกาสนี้ อดีตคนไร้บ้านได้มอบจดหมายขอบคุณผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้ดำเนินโครงการตรวจสุขภาพปีที่แล้ว ทำให้เขาสามารถหลุดจากวงจรคนไร้บ้านได้
ในการนี้ รศ.ทวิดา กมลเวชช และ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายแสนยากร อุ่นมีศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาสังคม สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ มูลนิธิกระจกเงา และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน
——————-