(5 มิ.ย. 68) เวลา 10.30 น. นายแสนยากร อุ่นมีศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม“ โดยกล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาขยะโดยเฉพาะขยะรีไซเคิลเป็นความท้าทายของเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร ต้องมีการบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการประสานความร่วมมือของภาคีเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมในการสร้างต้นแบบจุดรับขยะรีไซเคิลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้สถานีบริการน้ํามัน PTT station ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศและเป็นสถานที่ตั้งจุดรับขยะรีไซเคิล เพื่อให้ประชาชนได้แยกขยะและนํากลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น จึงขอเชิญชวนทุกคนได้ร่วมเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจําวัน เช่น การแยกขวด กระป๋อง กระดาษก่อนทิ้ง เพื่อเป็นพลังเปลี่ยนเมืองด้วยมือของทุกคน และขอให้โครงการประสบความสําเร็จ เป็นจุดเริ่มต้นของสังคมที่ตระหนักคุณค่าของขยะ เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ต่อไป
ด้านนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ๆ และเป็นโครงการที่ตอบโจทย์นโยบายของท่านผู้ว่าชัชชาติอย่างยิ่ง จริง ๆ แล้ว นโยบายของเราก็ง่าย ๆ คือส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะ 2 ประเภทก่อน คือขยะเปียกและขยะแห้ง กรุงเทพมหานคร มีขยะวันละ 9,000 ตัน ถ้าดึงเศษอาหารออก ซึ่งคือ 50% ของขยะออกมา จะสามารถช่วยได้เยอะมาก ที่เหลือขยะแห้งจะไม่ปนเปื้อน แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องเรียกว่าขยะแล้ว มันคือทรัพยากรเพราะว่าทุกอย่างมีมูลค่าสามารถเอาไปใช้ต่อ เอาไป recycle และ upcycle ได้ สำหรับประชาชนที่มีรถส่วนตัวอยู่แล้ว จะมาเติมน้ำมันหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็สามารถเอาขยะที่แยกมาดรอปที่นี่ ก็กลายเป็นมูลค่าเพิ่ม ลดค่าใช้จ่ายสําหรับชีวิตประจําวันได้
สำหรับโครงการ “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม“ กรุงเทพเทพมหานคร ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิมือวิเศษ บริษัท เวสบาย เดลิเวอรี่ จํากัด และกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและอํานวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้สามารถคัดแยกขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตั้งจุดรับวัสดุรีไซเคิล จํานวน 10 แห่งทั่วกรุงเทพ เริ่มสาขาแรกที่สถานีบริการ PTT station อเวนิว แจ้งวัฒนะ ซึ่งจะทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมวัสดุรีไซเคิล 8 ประเภท ได้แก่ 1.กระดาษรวมสี 2.กระดาษขาวดํา 3.กล่อง UHT 4.กระป๋องอลูมิเนียม 5.กระป๋องสังกะสี 6.ขวดแก้ว 7.ขวดพลาสติกใส PET และ 8.ขวดพลาสติกขุ่น HDPE สามารถนํากลับเข้าสู่กระบวนการ recycle และ upcycle เพื่อสร้างประโยชน์ใหม่ให้กับสังคม อีกทั้งประชาชนสามารถรวบรวมสะสมปริมาณ วัสดุรีไซเคิล เพื่อแลกเป็นแต้มสะสมแลกรับของรางวัล เงิน หรือเลือกบริจาคเข้ามูลนิธิมือวิเศษเพื่อสนับสนุนกิจการสาธารณประโยชน์ ต่าง ๆ ของประเทศต่อไป
ทั้งนี้โครงการฯ จะเปิดอีก 9 สาขา ในวันที่ 25 มิ.ย. 68 ได้แก่ 1.ปตท.สาขาบางบอน 2.ปตท.สาขาบรมราชชนนี ขาเข้า 3.ปตท.บจ.ปิโตรเลียม (ทวีวัฒนา) 4.ปตท.บจ.ปิโตรเลียมน้ำมัน
(รามอินทรา กม.3ขาเข้า) 5.ปตท.ปิโตรเลียม (อุดมสุข) 6.ปตท.สาขาพระราม2 (ขาออก) 7.ปตท.สาขามีนบุรี 8.ปตท.สาขาสรรพาวุธ-บางนา และ 9.ปตท.สาขาหนองแขม
ในการนี้ นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารเขตหลักสี่ ผู้บริหารมูลนิธิมือวิเศษ ผู้บริหารบริษัท เรสบาย เดลิเวอรี่ จํากัด ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ปตท. ตำกัด(มหาขน) และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ สถานีบริการ PTT station อเวนิว แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
——
