ติดดาบฝ่ายรักษาฯ เข้มจัดการสิ่งปฏิกูลตามกฎหมายสาธารณสุขอย่างถูกต้องและปลอดภัย

(24 เม.ย. 68) นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการจัดการสิ่งปฏิกูลตามกฎหมายสาธารณสุข ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 25 เม.ย. 68 ณ ห้องดินแดง ชั้น 4 โรงแรมปริ๊นซ์ตัน กรุงเทพ (Princeton Bangkok) เขตดินแดง เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจนโยบายการจัดการสิ่งปฏิกูลของกรุงเทพมหานคร แนวทางการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกสุขลักษณะตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานสังกัดฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ 50 เขต พร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนสามารถนำไปปรับใช้ในการกำหนดแนวทางการจัดการสิ่งปฏิกูลในระดับพื้นที่ และการควบคุม กำกับ ติดตามเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเก็บขนสิ่งปฏิกูล ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย และเป็นไปตามกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. 2561

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยในพื้นที่ กรุงเทพมหานครจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำหน้าที่จัดเก็บและกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย รวมทั้งไขมันด้วย การอบรมวันนี้ได้รับทราบถึงกฎหมาย ระเบียบ ขั้นตอน และวิธีการต่าง ๆ ในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเรื่องค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งทุกวันนี้กรุงเทพมหานครมีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและกำจัดขยะปีละประมาณ 7,000 ล้านบาท แต่ค่าธรรมเนียมจริง ๆ ที่เก็บได้ประมาณ 500 ล้าน มีส่วนที่กรุงเทพมหานครต้องรับภาระเป็นงบประมาณที่ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะถ้ามองลึกลงไปในเรื่องสิ่งปฏิกูลและไขมัน พบว่าเก็บค่าบริการจัดเก็บสิ่งปฏิกูลได้ประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี เก็บค่าบริการจัดเก็บไขมันจัดเก็บได้ประมาณ 6 ล้านบาทต่อปี ถ้ามองลงไปในค่าจัดเก็บและกำจัดสิ่งปฏิกูลและไขมันหนึ่งปีคงมากกว่าที่จัดเก็บได้ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ.2546 เก็บแต่ค่าเก็บขนขยะ ไม่มีค่ากำจัด บ้านที่ไม่เกิน 20 ลิตร 20 บาท และค่าเก็บขนปฏิกูล 250 บาท ไม่มีค่ากำจัด แต่กฎกระทรวงฯ กำหนดค่าธรรมเนียมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยอัตราสูงสุดไว้คือ ค่าเก็บขนขยะ 65 บาท ค่ากำจัดขยะ 155 บาท รวมเป็น 220 บาท แต่กรุงเทพมหานครเก็บเพียง 20 บาท ส่วนค่าเก็บขนสิ่งปฏิกูล 500 บาท ค่ากำจัดสิ่งปฏิกูล 650 บาท แต่กรุงเทพมหานครเก็บเพียง 250 บาท

ทั้งนี้ ในการออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ.2562 กำหนดค่าเก็บขนขยะ 40 บาท กับค่ากำจัด 40 บาท รวม 80 บาท ส่วนสิ่งปฏิกูลค่าเก็บขน 300 บาท ค่ากำจัด 300 บาท แต่เลื่อนการบังคับใช้และเก็บราคาเดิมมาตลอด จนเมื่อปีที่แล้วมีการออกร่างข้อบัญญัติค่าธรรมเนียม ปี 2567 มีการกำหนดค่าธรรมเนียมอัตราใหม่ คือ บ้านที่ขยะไม่เกิน 20 ลิตร ค่าเก็บขน 30 บาท ค่ากำจัด 30 บาท แต่หากบ้านไหนเข้าร่วมโครงการไม่เทรวมจะลดลงเหลือ 20 บาท เป็นค่าเก็บขน 10 บาท และค่ากำจัด 10 บาท ส่วนสิ่งปฏิกูลยังเป็นราคาเดิม คือ ค่าเก็บขน 300 บาท ค่ากำจัด 300 บาท จะเห็นว่ากรุงเทพมหานครยังไม่ได้เก็บตามที่กฎกระทรวงกำหนด สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นข้อมูลหนึ่งที่น่าจะต้องรู้ในการจัดเก็บค่าธรรมว่ากรุงเทพมหานครยังไม่ได้เก็บอัตราสูงสุดตามที่กฎกระทรวงกำหนด

รองปลัดฯ ชาตรี กล่าวในตอนท้ายว่า การฝึกอบรมในวันนี้จะทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายสาธารณสุขในเรื่องการจัดการสิ่งปฏิกูลตั้งแต่การเก็บขนจนถึงการกำจัดที่ปลายทาง ขอให้ทุกคนตั้งใจและได้รับความรู้และประสบการณ์จากวิทยากรและผู้ที่จะมาให้ความรู้ รวมถึงมีการแบ่งปันความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกคนเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงการทำงานให้ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน และเพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่ปฏิบัติงานในหน้าที่ตรงนี้

สำหรับโครงการดังกล่าว ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประกอบด้วย ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ตำแหน่งนักจัดการงานรักษาความสะอาดระดับปฏิบัติการถึงระดับชำนาญการ และตำแหน่งเจ้าหน้าที่งานรักษาความสะอาด ระดับชำนาญงานถึงระดับอาวุโส สังกัดฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตละ 1 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 50 คน รายละเอียดการฝึกอบรม ได้แก่ การบรรยายหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ 1. สถานการณ์และนโยบายการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร 2. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งปฏิกูล 3. ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมจากการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ 4. (ร่าง) แผนปฏิบัติการจัดการสิ่งปฏิกูลของประเทศไทย และการเสวนาในประเด็น “ความท้าทายและทิศทางในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การจัดการสิ่งปฏิกูลของกรุงเทพมหานคร”

โอกาสนี้ นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นางสาววรนุช สวยค้าข้าว ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม วิทยากร ผู้รับการฝึกอบรม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีเปิดโครงการ

กทม #บริหารจัดการดี

                     -----------------------------       (พัทธนันท์...สปส. รายงาน)
แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200