นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว รวมถึงกรณีมีข้อวิจารณ์เงินเยียวยาซ่อมแซมบ้านและคอนโดมิเนียมค่อนข้างน้อยว่า ปลัดกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขต ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการ กทม. ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 30 และ 37 ให้สำรวจความเสียหายต่าง ๆ จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหาย และออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัยเป็นหลักฐานการขอรับการสงเคราะห์และฟื้นฟูจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย กทม. และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามรายการ ดังนี้ กรณีบ้านเรือนเสียหายจนไม่สามารถพักอาศัยได้ ช่วยค่าเช่าบ้านเดือนละ 3,000 บาท (ไม่เกิน 2 เดือน) ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต รายละ 100,000 บาท ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บกรณีบาดเจ็บจนถึงขั้นพิการไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกติได้ รายละ 100,000 บาท ค่ารักษา พยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยใน (admit) ช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 4,000 บาท และกรณีเป็นผู้ป่วยนอก (ไม่ได้ admit) ช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 2,000 บาท หากมีใบรับรองแพทย์ยืนยันได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวจะช่วยเป็นเงินปลอบขวัญอีกรายละ 2,300 บาท กรณีค่ารักษาพยาบาลมีจำนวนเกินกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามระเบียบ กทม. จะส่งเรื่องให้ ปภ. พิจารณาให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีที่อยู่อาศัยประจำได้รับความเสียหายจะช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำ ครอบครัวละไม่เกิน 49,500 บาท โดยขึ้นอยู่กับการประเมินของคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับเขตของ กทม. และกรณีอุปกรณ์ทำกินของอาชีพหลักได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง จะช่วยเหลือเป็นเงินทุนประกอบอาชีพครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท
ทั้งนี้ ปัจจุบัน (วันที่ 19 เม.ย.68) มีผู้ประสบภัยมายื่นขอรับความช่วยเหลือจำนวน 32,279 ราย แบ่งเป็น ค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือค่าเช่าบ้าน 65 ราย ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต 26 ราย ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและค่ารักษาพยาบาล 17 ราย เงินปลอบขวัญ 24 ราย ค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำ 32,145 ราย และเงินทุนประกอบอาชีพ 2 ราย
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว รวมถึงกรณีมีข้อวิจารณ์เงินเยียวยาซ่อมแซมบ้านและคอนโดมิเนียมค่อนข้างน้อยว่า ปลัดกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขต ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการ กทม. ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 30 และ 37 ให้สำรวจความเสียหายต่าง ๆ จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหาย และออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัยเป็นหลักฐานการขอรับการสงเคราะห์และฟื้นฟูจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย กทม. และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามรายการ ดังนี้ กรณีบ้านเรือนเสียหายจนไม่สามารถพักอาศัยได้ ช่วยค่าเช่าบ้านเดือนละ 3,000 บาท (ไม่เกิน 2 เดือน) ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต รายละ 100,000 บาท ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บกรณีบาดเจ็บจนถึงขั้นพิการไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกติได้ รายละ 100,000 บาท ค่ารักษา พยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยใน (admit) ช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 4,000 บาท และกรณีเป็นผู้ป่วยนอก (ไม่ได้ admit) ช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 2,000 บาท หากมีใบรับรองแพทย์ยืนยันได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวจะช่วยเป็นเงินปลอบขวัญอีกรายละ 2,300 บาท กรณีค่ารักษาพยาบาลมีจำนวนเกินกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามระเบียบ กทม. จะส่งเรื่องให้ ปภ. พิจารณาให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีที่อยู่อาศัยประจำได้รับความเสียหายจะช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำ ครอบครัวละไม่เกิน 49,500 บาท โดยขึ้นอยู่กับการประเมินของคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับเขตของ กทม. และกรณีอุปกรณ์ทำกินของอาชีพหลักได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง จะช่วยเหลือเป็นเงินทุนประกอบอาชีพครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท
ทั้งนี้ ปัจจุบัน (วันที่ 19 เม.ย.68) มีผู้ประสบภัยมายื่นขอรับความช่วยเหลือจำนวน 32,279 ราย แบ่งเป็น ค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือค่าเช่าบ้าน 65 ราย ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต 26 ราย ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและค่ารักษาพยาบาล 17 ราย เงินปลอบขวัญ 24 ราย ค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำ 32,145 ราย และเงินทุนประกอบอาชีพ 2 ราย