ลุยต่อไปไม่หยุด รื้อซากอาคาร คืบหน้าเกือบ 50% ยืนยันยังไม่พบสัญญาณชีพเพิ่มเติม

 

 

(13 เม.ย. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ กรณีอาคารถล่มเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่เขตจตุจักร กทม. ปัจจุบันยอดผู้ประสบเหตุจากอาคารถล่ม เขตจตุจักร ณ เวลา 16.00 น. วันที่ 13 เมษายน 2568 มีจำนวน 103 ราย เสียชีวิต 37 ราย (ค้นพบและยืนยันเพิ่มขึ้น 2 ราย จากวานนี้) บาดเจ็บ 9 ราย คงเหลืออยู่ระหว่างติดตามอีก 57 ราย 

 

สำหรับการปฏิบัติงานตลอดคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำการเปิดพื้นที่โซน B4 และ C1 ซึ่งเป็นจุดที่ทีมกู้ภัยคาดว่ามีการพบแสงบางอย่าง โดยได้เปิดพื้นที่นำคานที่ขวางออก และเจาะลึกลงไปได้ 4 เมตร กว้าง 5 เมตร เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย และทีมสุนัข K-9 เข้าไปสำรวจได้สะดวกในช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่จากการตรวจสอบไม่พบสัญญาณชีพแต่อย่างใด ซึ่งในระหว่างเส้นทางการขุดไปยังจุดดังกล่าว ได้พบเคสสีดำ (ผู้เสียชีวิต) เพิ่มเติม 2 ราย จึงได้มีการแจ้งจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นไปแล้วข้างต้น และจากการตรวจสอบจนมั่นใจว่าไม่พบสัญญาณชีพบริเวณดังกล่าวแล้ว จึงได้เริ่มปฏิบัติการต่อโดยนำเครื่องจักรหนักเร่งขุดเจาะเพื่อทลายยอดของซากอาคารบริเวณโซน E โดยสามารถลดระดับความสูงชันตัวอาคารถล่มลงมา และการทลายแนวด้านข้างคืบหน้า

 

นายสุริยชัยฯ ผอ.สปภ. กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของภารกิจในวันนี้และพรุ่งนี้ ยังเป็นแผนเดิม คือ การนำคานและแผ่นปูนขนาดใหญ่ออกมา เพื่อลดระดับความชันและความสูงของซากอาคาร พร้อมทั้งเร่งทลายโซนอาคารด้านข้างให้เป็นระดับพื้นราบ โดยใช้เครื่องจักรหนักควบคู่กับการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งคาดว่าอาจจะพบผู้สูญหายได้มากขึ้น และจะดำเนินการไปจนกว่าจะค้นหาผู้สูญหายได้ครบตามจำนวน ในการค้นหามีความยากและมีอุปสรรคหลายประการ แต่เรายังพยายามกันต่อไป ปัจจุบันดำเนินการรื้อซากอาคารคืบหน้าไปเกือบ 50% แล้ว ในช่วงสงกรานต์นี้เจ้าหน้าที่ทุกทีมยังอยู่ครบเต็มกำลังทำให้งานรื้อถอนคืบหน้าต่อเนื่อง เครื่องจักรทำงานเต็มกำลัง มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามโซนต่าง ๆ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำลดฝุ่นละออง เมื่อเครื่องจักรหยุดทำงาน เจ้าหน้าที่จะค้นหาผู้ประสบภัย ค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะ ค้นหาทรัพย์สิน ด้านการนำออกและนำส่งเคสดำหรือชิ้นส่วนจะนำส่งพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล ส่วนทรัพย์สินจะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

 

 

โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กทม. ได้จัดนักจิตวิทยาพร้อมล่ามแปลภาษา ไว้ดูแลทั้งเจ้าหน้าที่และญาติผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเยียวยาตามระเบียบ กทม. ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2564 มีผู้ประสบภัยแจ้งความประสงค์มาแล้ว 23,405 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 13 เม.ย.68 เวลา 15.00 น.) เขตที่มีผู้มาแจ้งสูงสุด ได้แก่ เขตจตุจักร 3,080 ราย เขตห้วยขวาง 2,580 ราย เขตบางซื่อ 2,501 ราย เขตภาษีเจริญ 2,067 ราย และเขตธนบุรี 1,140 ราย โดยสำนักงานเขตทุกเขต ได้เริ่มทยอยนัดหมายเจ้าของอาคาร ลงสำรวจและประเมินความเสียหายอาคารที่ได้รับความเสียหายแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.68 เป็นต้นมา โดยในช่วงสงกรานต์นี้ก็ไม่ได้หยุด แต่พบว่าเจ้าของอาคารส่วนใหญ่ไม่อยู่บ้าน จึงขอแนะนำว่าหากท่านกลับมาแล้วสามารถติดต่อสอบถามกับสำนักงานเขตได้ทันที ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ทุกแห่ง ภายใน 30 วัน นับแต่วันเกิดเหตุ (ภายในวันที่ 27 เมษายน 2568) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวก รับแจ้งความที่สำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต ในเวลาราชการ โดยการประเมินจะอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นหน่วยดำเนินการสำรวจและประเมินความเสียหายโดยรายงานไปยังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่อไป

 

#แผ่นดินไหว #กทม.

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200