นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวกรณีเกิดเหตุการณ์รถขยะลากรถจักรยานยนต์บริเวณถนนพัฒนาการ ปากซอยพัฒนาการ 38 มุ่งหน้าแยกคลองตันว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 68 เวลาประมาณ 21.30 น. พนักงานขับรถเครื่องจักรกลขนาดเบาประจำรถเก็บขนมูลฝอย กทม. ได้ปฏิบัติหน้าที่ขับรถเก็บขนมูลฝอยไปทิ้งที่จุดรองรับขยะซอยอ่อนนุช 86 ด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระหว่างขับรถตามถนนพัฒนาการทิศทางจากถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าถนนเพชรบุรี เมื่อถึงปากซอยพัฒนาการ 36 ถนนพัฒนาการ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ช่องทาง ได้มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มเองบนถนน พนักงานขับรถขยะ กทม. จึงหยุดรถ โดยไม่เฉี่ยวชนรถและผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บนถนน หลังจากนั้นได้เปลี่ยนช่องทาง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อ และมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับตามมาแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ติดอยู่ด้านหลังรถ จึงได้หยุดรถลงไปดูทันที และได้พูดคุยกับเจ้าของรถจักรยานยนต์คันที่ติดอยู่หลังรถซึ่งไม่ได้ติดใจเอาความ จึงแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ ภายหลังจากการปฏิบัติหน้าที่แล้วเสร็จ พนักงานขับรถขยะ กทม. ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) คลองตัน

ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถและหลังรถเก็บขนมูลฝอยคันดังกล่าว พบว่ากล้องด้านหน้ารถมีรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุล้มอยู่และกล้องด้านหลังรถมีรถจักรยานยนต์ขับตามมาแล้วล้มเอง โดยตัวรถจักรยานยนต์ไถลเข้ามาติดกับช่วงท้ายรถเก็บขนมูลฝอย และมีการหยุดรถเก็บขนมูลฝอย โดยมีพนักงานในรถเก็บขนมูลฝอยคันดังกล่าวลงมานำรถจักรยานยนต์ออกจากช่วงท้ายของรถเก็บขนมูลฝอย นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบความเร็วของรถเก็บขนมูลฝอยคันดังกล่าวจากระบบติดตามรถอัจฉริยะ (GPS SHADOW TRACHKING) เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 68 เวลา 18.00 – 23.00 น. พบความเร็วไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังและขับขี่ยานพาหนะของราชการ โดยใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงอย่างเคร่งครัด และหากเกิดเหตุเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ที่มีผลกระทบต่อทรัพย์สินของทางราชการให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาโดยด่วน และให้ลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน