
(29 มี.ค.68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว ว่า ศูนย์บัญชาการสถานการณ์แผ่นดินไหว กรุงเทพมหานคร รายงานตัวเลขล่าสุดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 96 คน เสียชีวิต 8 คน รอดชีวิต 8 คน มารายงานตัวด้วยตัวเอง 1 คน อยู่ระหว่างการค้นหา 79 คน โดยในจำนวน 79 คนที่อยู่ในตึก ได้ใช้เรดาร์หาตําแหน่งได้แล้ว 30 คนเหลืออีก 49 คนที่ยังหาตําแหน่งไม่ได้ ซึ่งการปฏิบัติการเป็นไปอย่างมีระเบียบ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่เอาเครื่องมือหนักเข้าไป เพื่อเจาะรูเข้าไปตรวจสอบว่ามีคนรอดชีวิตหรือไม่ แล้วนำสุนัขเข้ามาอีกทีเพื่อยืนยัน จากนั้นจึงขุดเข้าไป ตอนนี้เราก็ยังดําเนินการค้นหาเพื่อช่วยชีวิตอยู่ยังไม่หมดความหวัง พยายามเดินหน้าให้มากที่สุด ให้ทุกคนทําให้เต็มที่ เพราะเราก็ยังเชื่อว่ายังมี ผู้จะรอดชีวิตอยู่ โดยเฉพาะชั้นล่างที่เป็นอาคารใต้ดิน น่าจะมีโพรงที่มีคนยังติดอยู่ ก็เดินหน้าเต็ม ที่อุปกรณ์เครื่องมือไม่ขาด มีรถเครนขนาด 200 ตัน 500 ตัน 600 ตัน และรถแบคโฮของทหาร พร้อมอยู่ในพื้นที่ การรถไฟก็ให้สถานที่ที่จะไปถมเศษปูนขนาดใหญ่ กระบวนการก็เป็นไปตามแผน มีระเบียบตามมาตรฐาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าต้องใช้เวลาเพราะไม่สามารถจะเข้าไปลุยรื้อได้อย่างเดียวแต่มีเรื่องความไม่เสถียรของตัวโครงสร้างอาคารด้วย
เมื่อเช้านี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการ กทม. 6 ประเด็น ประเด็นแรก ให้ไปบริหารจัดการบริเวณที่จุดเกิดเหตุหน้างานที่บริเวณจตุจักร ให้มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งก็ได้บริหารจัดการเรียบร้อยแล้ว
เรื่องที่ 2 เน้นเรื่องการให้ข้อมูลที่ถูกต้องโดยเฉพาะข้อมูลกับต่างประเทศเพราะว่ามีชาวต่างประเทศที่สนใจข้อมูล ซึ่งท่านนายกฯ ได้กรุณาให้กระทรวงต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ มาประจําที่ศูนย์ฯ ซึ่งเรามีการให้ข้อมูลในภาษาต่างประเทศ อาทิ ภาษาเมียนมาร์ หรือภาษาของบุคคลที่สูญหาย
เรื่องที่ 3 เรื่องการตรวจสอบอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งกทม. เรามีอํานาจอยู่แล้วในฐานะที่เป็นผู้อํานวยการปฏิบัติการ ในกรณีออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่ ระดับ 2 ดังนั้นเราจะมีคําสั่งออกไปเพื่อให้อาคารสูงอาคารขนาดใหญ่มีการตรวจสอบอาคารเพิ่มเติม ปกติต้องตรวจสอบทุกปี แต่ครั้งนี้เป็นกรณีเร่งด่วน ให้ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
เรื่องที่4 เป็นเรื่องเปิดการจราจรบริเวณทางด่วนดินแดง ซึ่งท่านนายกฯ ได้มอบหมาย กทม. หารือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดำเนินการ โดยมีกรมโยธาธิการและผังเมือง กทม. วสท. และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นคณะกรรมการ โดยมีผู้ปฏิบัติงาน คือ ผู้รับเหมาที่ก่อสร้างอาคารที่เครนหล่นลงมา เพราะต้องรับผิดชอบในการดําเนินการ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการได้เริ่มดําเนินการแล้ว และคิดว่าจะทําให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เป้าหมายอยากให้เปิดใช้วันจันทร์ให้ได้แต่ต้องรอดูสถานการณ์
เรื่องที่ 5 คือ เรื่องความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งมีเครื่องเอกซเรย์มาจาก อิสราเอล มาถึงคืนนี้เวลาเที่ยงคืน นอกจากนี้ก็มีหน่วยต่างๆ ที่จะมาช่วยเหลือ ได้มอบหมายให้ กทม. เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งต้องขอขอบคุณและมีหลายประเทศอยากจะเข้ามาช่วยเหลือ
เรื่องที่ 6 คือเรื่องการสอบสวนว่าข้อผิดพลาดของตึกที่ถล่มเกิดจากอะไร ท่านนายกฯ ได้สั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหัวหน้า กทม. เป็นผู้ร่วมในการสืบสวน ซึ่งได้สั่งการแล้วให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเก็บข้อมูลทั้งหมดของอาคารแล้ว
สำหรับสถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลายขึ้น เมื่อเช้าเราได้ส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรอาสา ไปตรวจ อาคารต่างๆ ปัจจุบันเรามีคนแจ้งเรื่องรอย แตกร้าวในอาคาร ผ่าน Traffy fondue จำนวน 6,000 เคส แล้วก็เริ่มทยอย ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนว่าอันไหนหนัก อันไหนเบา อันไหนที่ปล่อยได้ปล่อยเลย อันที่เห็นแล้วหนักก็ส่งทีมลงไปดู เรื้องนี้ต้องทําอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน กรมโยธาธิการและผังเมือง ก็จะมาช่วยดูอาคารของหน่วยงานราชการให้ ส่วนอาคารเอกชน กทม. กับวิศวกรอาสาเป็นผู้ช่วยดูแล เพราะว่าสําคัญที่สุดคือต้องสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนและความมั่นใจต้องมาจากความข้อเท็จจริง
“ต้องลุย !! ห้ามคิดอย่างอื่นเลย ต้องคิดว่ามีผู้รอดชีวิต เพราะว่าครอบครัวเค้ารออยู่ ไม่ต้องคิดเลยว่ามีคนรอดหรือไม่รอดหน้าที่เราต้องหาคนรอดให้ได้ ต้องเดินหน้าต่อ ต้องทำให้เต็มที่จนกระทั่งเวลาหมด” ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าว
—-