แนะนำนักศึกษาบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เข้าถึงข้อมูลกรุงเทพฯ ผ่าน BKK Risk Map เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง

 

 

 

(19 มี.ค.68) เวลา 14.00 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บรรยายพิเศษในหัวข้อ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน” แก่นักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร 

 

 

รศ. ทวิดา กล่าวว่า “ข้อมูล ความรู้ ความพร้อม คือสิ่งที่ต้องมีในการบริหารจัดการความเสี่ยง” กรุงเทพมหานคร(กทม.) มีการขับเคลื่อนนโยบาย OPEN BANGKOK ในส่วนของ Open Data ผ่านระบบการบริหารจัดการแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร (BMA Policy Tracking) แผนที่เสี่ยงภัยกรุงเทพมหานคร (BKK Risk Map) และด้าน OPEN POLICY ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เผยแพร่ผลงานสำคัญในการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 9 ด้าน 9 ดี ผ่าน openpolicy.bangkok.go.th โดย BKK Risk Map เป็นแผนที่ฐานข้อมูลดิจิทัลที่แสดงแหล่งข้อมูลความเสี่ยงของกรุงเทพฯ ทุกรูปแบบ เข้าถึงง่ายแบบเรียลไทม์ เป็นเครื่องมือสำหรับประชาชนที่ต้องการทราบข้อมูลความเสี่ยงต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ ช่วยประกอบการตัดสินใจในหลายมิติของชีวิต ทั้งการเดินทาง การเลือกโซนที่อยู่อาศัย และการอพยพเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และยังทำให้กรุงเทพมหานครมีเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงภัยแต่ละด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

 

รศ. ทวิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูล BKK Risk Map ดังกล่าว ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่านเว็บไซต์ https://cpudapp.bangkok.go.th/riskbkk/index.html สามารถเลือกดูข้อมูลความเสี่ยงภัยได้หลายด้าน เช่น แผนที่จุดเสี่ยงอุทกภัย: ตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ แผนที่จุดเสี่ยงอัคคีภัย: ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังและเตรียมพร้อมรับมือ แผนที่เสี่ยงภัยในชีวิตและทรัพย์สิน: ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงอาชญากรรม เพื่อวางแผนการเดินทางและเพิ่มความปลอดภัย แผนที่จุดเสี่ยงความปลอดภัยทางถนน: ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงอุบัติเหตุ เพื่อขับขี่อย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเส้นทางอันตราย แผนที่เสี่ยงภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5): ตรวจสอบคุณภาพอากาศ เพื่อวางแผนกิจกรรมกลางแจ้งและดูแลสุขภาพ โดยนักศึกษาสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการศึกษาได้โดย

 

 

ทั้งนี้ การบรรยายพิเศษในวันนี้ ประกอบด้วย 3 ประเด็น หลัก คือ 1. เมื่อ “เมือง” กลายเป็นโจทย์ของการบริหารจัดการ “ท้องถิ่น” สมัยใหม่ 2. รัฐ-ท้องถิ่น ต้นทางแห่งอำนาจและปลายทางของศักยภาพ 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

 

สำหรับ กรุงเทพมหานคร เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษเช่นเดียวกับพัทยา ซึ่งประเทศไทยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 7,849 แห่ง จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (11 มีนาคม 2568) มีภารกิจและอำนาจหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะ ประกอบด้วย 1. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การจัดการและดูแลสถานีขนส่งทางบกและทางน้ำ การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น การขนส่งมวลชนและการวิศวกรรมจราจร การสาธารณูปการ การจัดให้มีและการบำรุงทางน้ำและทางบก การจัดให้มีและการบำรุงทาง

ระบายน้ำ การจัดให้มีน้ำสะอาดหรือการประปา การจัดให้มีตลาด ท่าเทียบเรือและท่าข้าม การจัดให้มีและการบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น ฯลฯ 

 

 

2. ด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาทิ การจัดการศึกษา การจัดให้มีโรงพยาบาลจังหวัด การรักษาพยาบาล การป้องกันและการควบคุมโรคติดต่อ การป้องกัน การบำบัดโรค และ

การจัดตั้งและบำรุงสถานพยาบาล การรักษาความสะอาดของถนน ทางเดินเละที่สาธารณะ ฯลฯ 3. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย

อาทิ การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และลัทธิเสรีภาพของประชาชน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การจัดให้ระบบรักษาความสงบเรียบร้อยในจังหวัด ฯลฯ

4. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุนพาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว อาทิ การจัดทำแผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประสานการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด การจัดตั้งและดูแลตลาดกลาง การส่งเสริมการท่องเที่ยว ฯลฯ  

 

5. ด้านการบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ การคุ้มครอง ดูแลและบำรุงรักษาน้ำ ป่าไม้ ที่ดิน สัตว์ป่า การจัดตั้งและการดูแลระบบบำบัด น้ำเสียรวม การกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลรวม การจัดการสิ่งแวดล้อม ฯลฯ 6. ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ การจัดการศึกษา บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ฯลฯ 7. ด้านการบริหารจัดการและการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการและองค์กรปกครอง

ส่วนท้องถิ่น อาทิ สนับสนุนสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้อง

ถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น สนับสนุนหรือช่วยเหลือส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ฯลฯ 

 

 

ในส่วนของสถานการณ์ฉุกเฉินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องบริหารจัดการ ได้แก่ 1. ภัย (Hazards) คือ เหตุที่เกิดจากธรรมชาติ/การกระทำของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน ตลอดจนเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สาธารณภัย (Public Hazards/(Public Hazardous Event) อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์น้ำ การระบาดของศัตรูพืช ตลอดจนภัยอื่น ๆ อันมีผลกระทบต่อ สาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ทำให้เกิดขึ้น อุบัติเหตุ หรือเหตุอื่นใด ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชน หรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ และให้หมายความรวมถึงภัยทางอากาศ และการก่อวินาศกรรมด้วย และ 3. ภัยพิบัติ (Disaster) คือ การหยุดชะงักอย่างรุนแรงของกิจกรรมของชุมชนหรือสังคมที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่ส่งผลต่อชีวิต ทรัพย์สิน สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง เกินกว่าความสามารถของท้องถิ่นหรือชุมชนที่จะรับมือและจัดการได้

 

 

กลุ่มเป้าหมายในการบรรยายพิเศษครั้งนี้ ประกอบด้วย นักศึกษาสาขาวิชาการบริหารและจัดการเมือง ชั้นปีที่ 2 : รายวิชาการจัดการเชิงกลยุทธ์ทางการบริหารและจัดการเมือง จำนวน 29 คน นักศึกษาสาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ชั้นปีที่ 1 : รายวิชาความรู้พื้นฐานทางรัฐประศาสนศาสตร์ จำนวน 16 คน นักศึกษาสาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ชั้นปีที่ 1 : รายวิชาความรู้พื้นฐานทางการปกครองท้องถิ่น จำนวน 18 คน คณาจารย์และบุคลากร วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

 

 

#ปลอดภัยดี #โปร่งใสดี


———————————

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200