(17 มี.ค. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขต สำนักอนามัย ตรวจสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายอาหารเพื่อแก้ไขปัญหาไขมันอุดตันในท่อระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยความก้าวหน้าการตรวจถัง/บ่อดักไขมัน ในสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายอาหาร ระหว่างวันที่ 3 – 15 มี.ค.68 จากจำนวนสถานประกอบการกลุ่มเป้าหมายตามแผน จำนวน 5,217 แห่ง ดำเนินการตรวจแล้ว 2,805 แห่ง คิดเป็น 53.77% ผลการตรวจพบว่า ผ่านเกณฑ์ คือ มีถังดักไขมันและใช้การได้ดี 2,582 แห่ง (มีใบอนุญาต 2,475 แห่ง ไม่มีใบอนุญาต 107 แห่ง) ไม่ผ่านเกณฑ์ คือ มีถังดักไขมันแต่ใช้การไม่ได้หรือชำรุด 223 แห่ง (มีใบอนุญาต 151 แห่ง ไม่มีใบอนุญาต 72 แห่ง)
ทั้งนี้ สำนักงานเขตได้ออกแบบตรวจแนะนำ (นส.1) แก่สถานประกอบการที่มีการจำหน่ายอาหารไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสุขลักษณะบ่อ/ถังดักไขมัน ทั้ง 223 แห่ง โดยสถานประกอบการได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแล้ว 30 แห่ง ออกคำสั่งตามมาตรา 45 ให้ปรับปรุงแก้ไข 2 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มี.ค.68)
สำหรับแนวทางการกำกับดูแลสถานประกอบการพื้นที่เป้าหมายที่มีการจำหน่ายอาหาร ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มีดังนี้ 1. ตรวจใบอนุญาต/หนังสือรับรองการแจ้งสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายอาหาร โดยหากพบว่าไม่มีใบอนุญาต/หนังสือรับรองการแจ้ง เจ้าหน้าที่จะออกแบบตรวจแนะนำ (นส.1) ให้ผู้ประกอบการยื่นขออนุญาต ภายใน 7 วัน โดยระหว่างยื่นขออนุญาต ต้องหยุดประกอบกิจการจนกว่าจะได้รับอนุญาต และหากยังไม่ปฏิบัติตาม สำนักงานเขตรวบรวมหลักฐานส่งดำเนินคดี 2. ตรวจสุขลักษณะว่ามีการติดตั้งบ่อ/ถังดักไขมันหรือไม่ ใช้การได้ดีหรือไม่ กรณีพบข้อบกพร่อง จะออกแบบตรวจแนะนำ (นส.1) ให้แก้ไขภายใน 7 วัน