กทม. เซ็น MOA กรมการขนส่งทางบก แบ่งปันข้อมูลการเดินรถแบบ Real Time แจ้งเวลารถเมล์เข้าป้าย ติดตามรถบรรทุกน้ำหนักเกินลักลอบวิ่งในเมือง ป้องกันฝุ่น PM2.5

(7 มี.ค. 68) เวลา 10.00 น. : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) การบูรณาการข้อมูลเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กับ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการโยธา ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมโยธา 1 ชั้น 6 สำนักการโยธา

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ความสำคัญในการร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกในทุก ๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพเมือง การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) การบูรณาการข้อมูลเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กับ กรุงเทพมหานคร มีเป้าหมายที่จะแบ่งปันข้อมูลร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กับ กรุงเทพมหานคร เป็นการส่งเสริม สนับสนุน และการสร้างพันธมิตรในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกันตามนโยบายของรัฐที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยกรมการขนส่งทางบก จะแบ่งปันข้อมูลการเดินรถจาก GPS แบบ Real Time ข้อมูลยานพาหนะ ข้อมูลผู้ขับรถของรถโดยสารประจำทางและรถบรรทุกขนส่งสินค้าทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพมหานครจะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการแจ้งเวลาของรถที่จะเข้าป้ายจำนวน 5,000 ป้าย ศาลาที่พักผู้โดยสารจำนวน 2,098 หลัง การวิเคราะห์เวลาการเดินทาง การนำเวลามาปรับสัญญาณไฟจราจรให้เหมาะสม การควบคุม กำกับ ติดตามรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินและรถบรรทุกวัตถุอันตรายที่เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครจะแบ่งปันข้อมูลถนน ตรอก ซอย ตำแหน่งป้ายรถประจำทางและศาลาที่พักผู้โดยสาร ตำแหน่งจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง และข้อมูลผลการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการและการบังคับใช้กฎหมายต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการแบ่งปันข้อมูลร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาเมืองที่ดียิ่งขึ้นและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนต่อไป

”ถ้าเราเชื่อมโยงข้อมูล GPS กับกรมการขนส่งทางบกจะทําให้เราสามารถกํากับดูแลได้ในหลายด้าน เช่น เรื่องน้ำหนักรถบรรทุก เราจะรู้เลยว่ารถที่ฝ่าฝืนวิ่งตรงไหน สามารถนำข้อมูล GPS ไปขึ้นศาลแล้วก็ปรับ จากนั้นเราก็รู้ว่ารถคันดังกล่าว วิ่งไปส่งของที่ไหน ที่ไซต์งานไหน ซึ่งเรามีข้อกําหนดว่าไซต์งานไหนที่ใช้รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ก็จะให้หยุดการก่อสร้างก็ทําให้เกิดความเกรงกลัวมากขึ้น รวมถึงการใช้ในกระบวนการควบคุมเรื่องฝุ่น PM2.5 ด้วย เรามีการดำเนินมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รถบรรทุกที่ไม่อยู่ใน green list เราไม่ให้เข้ามาในเขตวงแหวนชั้นใน หรือแม้กระทั่งกรณีรถเมล์ เพราะเราจะทําป้ายรถเมล์ที่มีการเชื่อมโยง GPS ทําให้รู้เลยว่าอีกกี่นาทีรถเมล์จะถึงป้าย ทําให้ผู้โดยสารสามารถรอได้อย่างเหมาะสม“ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

สำหรับขอบเขตความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะดำเนินงานและกิจกรรมต่าง ๆ มีดังนี้
1.ขบ. จะแบ่งปันเชื่อมโยงข้อมูล ดังนี้ ข้อมูลจากระบบบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS) แบบ Real Time ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลการเดินรถ GPS Log รายนาที ข้อมูลยานพาหนะ ข้อมูลผู้ขับรถ ของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ในประเภทการขนส่งประจำทาง (รถโดยสารประจำทาง) และรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ (รถบรรทุกขนส่งสินค้า) ทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้แก่ กทม. เพื่อใช้ปฏิบัติงานตรวจสอบและควบคุมน้ำหนักยานพาหนะบนทางหลวงท้องถิ่นในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อการบริหารงานและบริการประชาชนภายในเขตพื้นที่การปกครองของกรุงเทพมหานครภายใต้อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
2.กทม. จะแบ่งปันเชื่อมโยงข้อมูลถนน ตรอก ซอย ตำแหน่งป้ายรถประจำทางและศาลาที่พักผู้โดยสาร และตำแหน่งจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง และข้อมูลผลการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินจากฐานข้อมูลของ กทม. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินภารกิจของ ขบ. ภายใต้อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
3.สนับสนุนส่งเสริมบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน เช่น ด้านการตรวจสอบ ด้านการวิเคราะห์และประมวลผล
4.ดำเนินการแบ่งปันข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีผลใช้บังคับใช้ภายใน 3 ปี (สามปี) นับถัดจากวันที่ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ทั้งนี้ ขบ. และ กทม. อาจตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขยายเวลาในการใช้บังคับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ออกไปได้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ ความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เป็นไปตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ประกาศผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่น เรื่อง ห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหายเดินบนทางหลวงท้องถิ่น ในเขตความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 500/2560 เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานทางหลวงสำหรับทางหลวงท้องถิ่น ลงวันที่ 31 มีนาคม 2560 และคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 2328/2564 เรื่อง แก้ไขคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานทางหลวงสำหรับทางหลวงท้องถิ่น ลงวันที่ 28 กันยายน 2564

——-

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200