
(25 ม.ค. 68) เวลา 08.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในความดูแลรับผิดชอบของสำนักสิ่งแวดล้อม โครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน 2567 เพื่อติดตามความคืบหน้าในการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน แก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นขยะที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ ตรวจการติดตั้งระบบบำบัดอากาศ และการทดสอบระบบโดยการรับมูลฝอยเข้ากำจัด โดยมี นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม ผู้แทนบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัทผู้รับจ้าง ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล ณ โรงงานกำจัดมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงาน ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เขตประเวศ
ในการนี้ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และผู้แทนบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้เดินตรวจบริเวณอาคารรับขยะ ช่องเทขยะ และบ่อรับขยะ เพื่อติดตามการปรับปรุงโรงงานให้เป็นระบบปิดทั้งหมด 100% โดยการปิดช่องว่างและอุดรอยต่อทั้งหมด ตรวจการติดตั้งประตู Hight Speed Shutter Door บริเวณทางเข้าอาคารรับขยะ ซึ่งเป็นประตูอัตโนมัติจะเปิด-ปิดในเวลาที่มีรถขยะผ่านเข้า-ออก รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิดประตู ในช่วงเวลาที่มีรถขยะหลายคันจอดรอคิวเพื่อผ่านเข้า-ออก พร้อมติดตั้งม่านอากาศซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นกระจายออกไปสู่ด้านนอก การติดตั้งประตู Hight Speed Shutter Door บริเวณทางเข้าอาคารเก็บเชื้อเพลิง (RDF) การติดตั้งระบบบำบัดกลิ่นเครื่องใหม่ โดยการใช้เคมีบำบัดกลิ่นขนาด 67,000 ลบ.ม./ชม. เพิ่มปริมาณการดูดอากาศ เน้นการดูดกลิ่นในบริเวณที่มีกลิ่นรุนแรง ช่วยบำบัดอากาศให้ดีขึ้น
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบบำบัดกลิ่นเครื่องใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงอาคารให้เป็นระบบปิดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ตามกำหนดเวลาที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งให้ขยายเวลาไว้ จากนั้นเริ่มทำการทดสอบอุปกรณ์ของระบบคัดแยกขยะและระบบบำบัดกลิ่นเครื่องใหม่ รวมถึงทดสอบระบบ Negative Pressure อาคารรับขยะ และอาคารเตรียมหมักและขนถ่าย RDF จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เมื่อการทดสอบแล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในประสิทธิภาพการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน บริษัทฯ ได้กำหนดแผนทดลองเดินระบบ โดยทยอยเพิ่มปริมาณรับขยะจาก 200 ตัน/วัน ระยะเวลา 21 วัน เป็น 400 ตัน/วัน ระยะเวลา 7 วัน เป็น 600 ตัน/วัน ระยะเวลา 7 วัน และ 800 ตัน/วัน ระยะเวลา 7 วัน ตามลำดับ บริษัทฯ ได้แจ้งความประสงค์ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม พิจารณาเห็นชอบขยายเวลาการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน (ลำดับ 106) ออกไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ต่อมากรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการปฏิบัติตามคำสั่งออกไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเห็นชอบให้บริษัทฯ รับมูลฝอย เพื่อทดลองเดินระบบและทดสอบประสิทธิภาพของระบบบำบัดมลพิษอากาศภายในโรงงาน ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นระยะเวลา 42 วัน จากนั้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัทฯ จะรายงานผลการทดลองเดินระบบและทดสอบประสิทธิภาพของระบบบำบัดมลพิษอากาศภายในโรงงานแก่กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อม ติดตามการปรับปรุงแก้ไขปัญหาของโรงงานกำจัดมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงาน ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลไกการทำงานของคณะกรรมการและบริษัทฯ เพื่อให้การปรับปรุงแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นขยะ ตลอดจนเรื่องเสียงรบกวนเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณโดยรอบ โดยในวันที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 14.30-16.00 น. บริษัทฯ ได้เชิญสำนักสิ่งแวดล้อม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ กล่าวต้อนรับและแจ้งวัตถุประสงค์ในการตรวจเยี่ยม นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการ กล่าวถึงความเป็นมาและสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน จากนั้นนำคณะเข้าตรวจเยี่ยมบริเวณโรงงานและตอบข้อซักถาม
สำหรับโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน เป็นโครงการตามนโยบายการบริหารจัดการมูลฝอย โดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อลดพื้นที่การนำขยะไปฝังกลบ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ว่าจ้าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ดำเนินการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน เป็นโครงการนำร่องใช้เทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ (Mechanical-Biological-Treatment : MBT) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีผลพลอยได้เป็นขยะเชื้อเพลิง (RDF) และขยะรีไซเคิล เริ่มเปิดเดินระบบมาตั้งแต่ปี 2563 ต่อมามีการร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหากลิ่น ที่ผ่านมากรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้สั่งระงับใบอนุญาต เพื่อให้บริษัทฯ ปรับปรุงระบบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหากลิ่น โดยอนุญาตให้กลับมาเปิดเดินระบบทดสอบรับกำจัดขยะ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2565 ต่อมา กรอ. ได้สั่งการให้แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม ในเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย และการตรวจค่าวัดกลิ่น
ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินงานตามคำสั่งของ กรอ. ดังนี้ 1.โรงผลิตก๊าซชีวภาพ และบำบัดน้ำเสีย มีลำดับการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1) วันที่ 2 เมษายน 2567 กรอ. มีหนังสือแจ้งให้บริษัทฯ ทราบว่า ตามที่ได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจัดให้มีบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงงาน และให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการจัดทำรายงานชนิดและปริมาณสารมลพิษที่ระบายออกจากโรงงาน พ.ศ.2558 ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ กรอ. ได้ตรวจสอบโรงงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 พบว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งแล้ว 2) วันที่ 19 เมษายน 2567 กรอ. มีคำสั่งขยายระยะเวลาการปรับปรุงแก้ไขโรงงานออกไปถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 โดยให้แสดงรายละเอียดการนำน้ำทิ้งจากการปรับคุณภาพน้ำ เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ในโรงงาน โรงผลิตก๊าซชีวภาพ และบำบัดน้ำเสียเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดส่งข้อมูลให้ กรอ. เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 3) วันที่ 26 สิงหาคม 2567 กรอ. แจ้งผลการปฏิบัติการตามคำสั่ง มาตรา 37 ของโรงผลิตก๊าซชีวภาพ และบำบัดน้ำเสีย พบว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งแล้ว 2.โรงคัดแยก ตามที่บริษัทฯ ได้ส่งแผนและมาตรการปรับปรุงโรงงานเป็นระบบ Negative Pressure ให้ กรอ. เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เพื่อขอให้ กรอ. พิจารณาขยายระยะเวลาการปรับปรุงโรงงาน ต่อมาวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 กรอ. มีคำสั่งให้ขยายเวลาการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ออกไปจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นขยะรบกวนชุมชนโดยรอบโครงการ บริษัทฯ ดำเนินการดังนี้ 1.การปรับปรุงโรงงานให้เป็นโรงงานปิด 100% ดำเนินการอุดรอยรั่วบริเวณรอยต่อของหลังคาและผนังอาคารรับขยะ ปรับปรุงประตูทางเข้าอาคารขนถ่าย RDF และอุดรอยรั่วบริเวณรอยต่ออาคาร 2.การติดตั้งประตู High Speed Shutter Door บริเวณทางเข้าอาคารรับขยะ พร้อมติดตั้งม่านอากาศ การติดตั้งประตู High Speed Shutter Door บริเวณทางเข้าอาคารเก็บเชื้อเพลิง (RDF) 3.ติดตั้งระบบบำบัดกลิ่นเครื่องใหม่ โดยการใช้เคมีบำบัดกลิ่นขนาด 67,000 ลบ.ม./ชม. ซี่งจะเพิ่มปริมาณการดูดอากาศ โดยการเน้นการดูดกลิ่นในบริเวณที่มีกลิ่นรุนแรง ได้แก่ บริเวณเครื่องเตรียมหมัก (Biodamp) บริเวณเครื่องบีบอัด (Screw press) บริเวณชุดแยกกรวดทราย (Aerating sand) 4.การติดตามปัญหาเรื่องกลิ่นขยะ การลงพื้นที่สอบถามประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณโดยรอบโครงการฯ การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดกลิ่น E-NOSE ในจุดที่เฝ้าระวัง
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)