นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวถึงการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการควบคุมและป้องกันการปล่อย PM2.5 จากไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. ได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดมาตรการควบคุมและป้องกันการปล่อยฝุ่น PM2.5 จากแหล่งกำเนิดหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ การตรวจวัดควันดำจากยานพาหนะร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) พบว่า ในปี 2567 ได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งสิ้นประมาณ 111,000 คัน เกินเกณฑ์มาตรฐานและออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 711 คัน การส่งเสริมการบำรุงรักษารถยนต์ลดการปล่อยมลพิษภายใต้โครงการรถคันนี้ลดฝุ่น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนร่วมโครงการตั้งแต่เดือน ต.ค. 67 – ม.ค. 68 จำนวนกว่า 170,000 คัน การควบคุมการปล่อยมลพิษจากสถานประกอบการ/โรงงานอุตสาหกรรม พบว่า ในปี 2567 กทม. ดำเนินการตรวจสอบกว่า 340 แห่ง โดยตรวจสอบกว่า 3,000 ครั้ง ออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 25 แห่ง รวมทั้งไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างที่อยู่ในความดูแลของ กทม. ได้กำกับดูแลผู้รับเหมาก่อสร้างในแต่ละโครงการที่อยู่ภายใต้สัญญาให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เช่น มีผ้าใบปกคลุมตัวอาคาร มีรั้วทึบไม่น้อยกว่า 2 เมตร มีการพรมน้ำควบคุมฝุ่น มีการฉีดล้างทำความสะอาดตัวรถล้อรถก่อนออกจากโครงการ เป็นต้น จากสถิติมีโครงการได้รับเห็นชอบแล้ว 761 โครงการ จากโครงการเข้ารับการพิจารณา 1,058 โครงการ และในปี 2567 กทม. ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ก่อสร้าง 592 แห่ง โดยตรวจสอบกว่า 5,500 ครั้ง ออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขตามมาตรการ EIA จำนวน 34 แห่ง เพื่อป้องกันและลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น PM2.5 ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมาตรการดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ของ กทม. อย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน กทม. มีมาตรการเชิงรุกจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุลักลอบเผาในที่โล่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามในวงกว้างและเป็นต้นเหตุของฝุ่น PM2.5 จากการเผาไหม้ รวมถึงมาตรการป้องกันเหตุไฟไหม้หญ้าและกองขยะในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ช่วยลดมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM2.5
ส่วนการควบคุมการเผาภาคการเกษตร กทม. ได้ให้บริการยืมรถอัดฟางสำหรับกลุ่มเกษตรกรทำนาและประสานความร่วมมือสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบพื้นที่ รณรงค์เน้นย้ำสร้างความเข้าใจและความร่วมมือของประชาชนงดเผาเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูก งดการเผาในที่โล่ง เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดการทำกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในอากาศ
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า สนย. ได้กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้อื่นในระหว่างการก่อสร้าง เช่น การฉีดพ่นละอองน้ำบนอาคารและบริเวณรอบสถานที่ก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในอากาศ ห้ามไม่ให้ดำเนินการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดควันดำ หรือฝุ่น PM2.5 ในอากาศจนเกินค่ามาตรฐานตามกฎหมายกำหนด พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด พร้อมประสานขอความร่วมมือให้เจ้าของโครงการก่อสร้างอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ และอาคารขนาดใหญ่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ภายในโครงการอย่างน้อย 1 จุด เพื่อตรวจวัดว่าปริมาณฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับใด เกินกว่าค่ามาตรฐานกรมควบคุมมลพิษและมาตรฐานองค์การอนามัยโลกหรือไม่ หากพบค่าตรวจวัดเกินจากค่ามาตรฐานกำหนด โครงการฯ จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ลดงาน หรือกิจกรรมดังกล่าวลง หรือจัดหาวิธีการ มาตรการป้องกันและควบคุมเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและควบคุมมลพิษ รวมทั้งเคร่งครัดการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากการก่อสร้างอาคาร