(30 ต.ค.67) นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับคณะอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ในโอกาสเข้าศึกษาดูงานด้านการต่างประเทศของกรุงเทพมหานคร ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร
รองปลัด กทม. กล่าวว่า กรุงเทพมหานครหากดูในบริบทของเมืองจะเห็นว่าเป็นเมืองที่มีคนมากมายหลายสัญชาติ หลายประเทศเข้ามาทำงาน ท่องเที่ยว หรืออาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งบริบทเหล่านี้ก็ทำให้เมืองเรามีรายได้ สร้าง GDP ให้กับประเทศ ฉะนั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไมกรุงเทพมหานครต้องมีเรื่องของการต่างประเทศ เราในฐานะเมืองหลวงของประเทศไทย เมืองน่าเที่ยวเราจัดอยู่ในอันดับ 1 ดังนั้นการดำเนินงานก็จะต้องร่วมกับหลายภาคส่วน เช่น สถานทูตประเทศต่าง ๆ องค์การระหว่างประเทศและเครือข่ายระหว่างประเทศ รวมถึงการนำองค์ความรู้หรือความร่วมมือจากเมือง องค์การระหว่างประเทศมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินภารกิจ ด้านการพัฒนาเมืองของกรุงเทพมหานครในด้านต่าง ๆ อาทิ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม การบริหารจัดการน้ำ การคมนาคมขนส่ง การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาสนับสนุนการให้บริการแก่ประชาชนให้ได้รับความสะดวกสบาย ดังนั้นวันนี้น้อง ๆ จะได้เรียนรู้บทบาทงานด้านการต่างประเทศของกรุงเทพมหานคร และนำความรู้ไปปรับใช้ในรายวิชา ในวันข้างหน้าหากมีโอกาสก็มาร่วมงานกับกรุงเทพมหานคร เราต้องการบุคลากรที่สนใจเมืองเพื่อทำให้เมืองของเราดีขึ้นและน่าอยู่สำหรับทุกคน
สำหรับการศึกษาดูงานในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาอุษาคเนย์ศึกษา (Southeast Asian Studies) ภาควิชาการศึกษาทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อศึกษาการดำเนินการด้านการต่างประเทศของกรุงเทพมหานคร ในฐานะองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษ โดยมีบุคลากรจากสำนักงานการต่างประเทศ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้บรรยายสรุป ซึ่งรายวิชานี้เป็นการศึกษาพลวัตทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การมองย้อนประวัติศาสตร์ของภูมิภาค วัฒนธรรมที่หลากหลาย และประเด็นร่วมสมัยที่หล่อหลอมสถานะปัจจุบันของภูมิภาค รวมถึงสำรวจประเด็นสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ความร่วมมือระดับภูมิภาค ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอิทธิพลที่ได้รับและส่งผลถึงภูมิภาครอบนอก โดยมีนักศึกษาเข้าศึกษาดูงานทั้งสิ้นจำนวน 48 คน