(24 ต.ค. 67) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Digital Innovation Maker Space ในโครงการส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนานวัตกรยุค 4.0 (โรงเรียนภาษาที่สาม) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครยินดีที่ได้เป็นพื้นที่นำร่องในโครงการส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนานวัตกรยุค 4.0 (โรงเรียนภาษาที่สาม) ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมทักษะให้แก่นักเรียน แต่ยังช่วยให้คุณครูสามารถใช้วิธีการสอนที่หลากหลายและทันสมัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมพร้อมให้กับเด็ก ๆ ในการเผชิญการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาวิชาการเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับกรุงเทพมหานครมีแผนพัฒนาเมืองที่มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา โดยเน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างนักเรียนคุณภาพในยุค 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะเทคโนโลยี เพื่อเตรียมความพร้อมในการแข่งขันในโลกปัจจุบัน การส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็น ในขณะเดียวกันการพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัยจะตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ การจัดหาห้องเรียน Digital Innovation Maker Space จะทำให้การเรียนการสอนมีความทันสมัย การพัฒนาทักษะภาษาที่ 3 โดยเฉพาะการเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) จะช่วยให้เด็กมีความรู้ในเทคโนโลยีและสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สวทช. ได้รับการสนับสนุนจากกรุงเทพมหานคร ในการนำผลงานวิจัยมาพัฒนาทั้งเมืองและระบบการศึกษา เช่น Traffy Fondue: แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง Thai School Lunch for BMA: แพลตฟอร์มจัดสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โครงการ KidBright: โครงการที่จัดอบรมให้ข้าราชการครูฯ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนและการพัฒนาทักษะด้าน STEM ให้กับเด็ก ๆ โดยการร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น แต่ยังเป็นการสร้างพื้นฐานในการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเด็กไทยและสังคมโดยรวม ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืนสำหรับการพัฒนาการศึกษาในกรุงเทพมหานครและประเทศชาติในอนาคต