พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดทำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน รวมทั้งเพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการและประชาชนมีจิตสำนึกสาธารณะ รักบ้านเมือง รู้รักสามัคคี ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม บรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาให้แก่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดจนเพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน กรุงเทพมหานครมีความปลาบปลื้มปิติเป็นล้นพ้น ที่ได้น้อมนำโครงการฯ มาสืบสาน ขยายผล โดยระดมพลังความรัก ความสามัคคีทั้งของหน่วยงานในพระองค์ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน ร่วมปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน อย่างยั่งยืน
(18 ก.ย. 67) นางสมฤดี ลันสุชีพ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม พร้อมนางสาวกันต์กนิษฐ ตั้งวงษ์เลิศ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน นำจิตอาสาฯ สำนักพัฒนาสังคม และบุคลากรสำนักพัฒนาสังคม ร่วมกิจกรรม“ปันยิ้ม ปันรัก ปันสุข” เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีงาม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และปรารถนาดีต่อผู้อื่น อันเป็นการส่งเสริมค่านิยมแห่งการแบ่งปัน เพื่อให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น โอกาสนี้ได้ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียนโสตศึกษาฯ จำนวน 15,000 บาทด้วย
สำหรับโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ เดิมชื่อโรงเรียนสอนคนหูหนวกทุ่งมหาเมฆ เป็นโรงเรียนสอนคนหูหนวกแห่งที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2504 โดยมี หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2504 บนที่ดินของกรมประชาสงเคราะห์ เนื้อที่ 10 ไร่ 40 ตารางวา และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2521 นายแพทย์บุญสม มาร์ติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้อนุมัติให้เปลี่ยนชื่อจาก โรงเรียนสอนคนหูหนวกทุ่งมหาเมฆเป็นโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ ปัจจุบันจัดการเรียนการสอนแก่นักเรียนพิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบอยู่ประจำและไปกลับ นักเรียนที่เป็นบุคคลออทิสติก และนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาในระดับมัธยมศึกษา
————————