Flag
Search
Close this search box.
กทม. ชี้แจงข่าวร้องเรียน ประจำวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567

กทม. กำชับดำเนินโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยพลังงานไฟฟ้าตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยพลังงานไฟฟ้าของ กทม. ว่า กทม. โดย สสล. ได้ขอจัดสรรงบประมาณ ประจำปี 2566 เพื่อเช่ารถเก็บขนมูลฝอยทดแทนรถในสัญญาเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 รวม 842 คัน แบ่งเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย รถแบบอัด 5 ตัน จำนวน 464 คัน แบบอัด 2 ตัน จำนวน 152 คัน แบบยกภาชนะ 3 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จำนวน 102 คัน และแบบยกภาชนะ 8 ลบ.ม. จำนวน 124 คัน โดยทั้ง 4 โครงการ ระบุวัตถุประสงค์เพื่อจัดหารถเก็บขนมูลฝอยให้เพียงพอในการบริการเก็บขนมูลฝอยจากบ้านเรือนประชาชน และไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่ต้องใช้
ทั้งนี้ สสล. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของ กทม. ได้เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศมาโดยตลอด ซึ่งปัญหาฝุ่น PM2.5 สาเหตุส่วนหนึ่งจากการใช้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าในหน่วยงานราชการ ซึ่ง กทม. ได้มีหนังสือเวียนแจ้งทุกหน่วยงานพิจารณาใช้รถไฟฟ้าหากมีการจัดหารถใหม่ทดแทน ขณะเดียวกันผู้บริหารกรุงเทพมหานครมีนโยบายระบบนิเวศสีเขียว (Green Ecosystem) ลดฝุ่น PM2.5 ลดมลภาวะทางเสียง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะ สสล. จึงได้พิจารณาเลือกใช้รถไฟฟ้าเก็บขนมูลฝอยทั้ง 4 โครงการ รวมถึงโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ลดฝุ่น PM2.5 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างระบบนิเวศการใช้รถไฟฟ้า เพื่อเป็นผู้นำประชาชนในการใช้ยานพาหนะใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยพลังงานไฟฟ้าทั้ง 4 โครงการ สสล. ได้รับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 พร้อมปรับปรุงการจัดทําข้อกำหนดและขอบเขตการจ้าง (TOR) แต่ยังขาดข้อมูลบางส่วน ประกอบกับมีข้อทักท้วงหลายประการจากสภา กทม. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างรอบคอบ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงศึกษาข้อเท็จจริงตามที่มีข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพจำนวนรถเก็บขนมูลฝอยแบบดีเซลที่จะทยอยสิ้นสุดสัญญา ตลอดจนเตรียมความพร้อมด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้าทดสอบรถล่วงหน้าและจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง พร้อมเตรียมระบบรองรับอย่างเพียงพอต่อไป


 

กทม. เข้มงวดมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยในชุมชน

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตชุมชนพาดสาย เขตสัมพันธวงศ์ ไม่มีถังดับเพลิง รวมทั้งไม่มีประปาหัวแดงในชุมชนว่า ปัจจุบันชุมชนพาดสาย มีถังดับเพลิงในชุมชนจำนวน 11 ถัง โดยในปีงบประมาณ 2568 สำนักงานเขตฯ ได้แจ้งความต้องการถังดับเพลิงเพิ่มเติมให้กับชุมชนพาดสายอีก 8 ถัง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยในชุมชนอัตราถังดับเพลิง 1 ถัง/5 หลังคาเรือน ส่วนหัวจ่ายน้ำดับเพลิง หรือประปาหัวแดงติดตั้งอยู่ในชุมชน 1 หัว และใกล้เคียงทางเข้า-ออกชุมชน มีจำนวน 2 หัว
นอกจากการติดตั้งประปาหัวแดงให้ครอบคลุมแล้ว สปภ. โดยสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิได้ดำเนินการฝึกซ้อมแผนดับเพลิงและอพยพหนีไฟให้กับชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบประจำปี 2567 โดยฝึกซ้อมไปแล้ว 11 ชุมชน ส่วนชุมชนพาดสายอยู่ระหว่างประสานเพื่อกำหนดวันเวลาฝึกซ้อมให้แล้วเสร็จ รวมทั้งประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้าร่วมสำรวจและจัดระเบียบสายไฟฟ้าในชุมชนต่าง ๆ ในเขตสัมพันธวงศ์ โดยเฉพาะชุมชนที่มีประชาชนพักอาศัยหนาแน่น มีอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก และติดตั้งสายไฟฟ้าไม่ถูกต้องตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้และอุบัติภัยต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน สปภ. ได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยในสังกัด รณรงค์ส่งเสริมความรู้ สร้างความตระหนักและเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในชุมชนและสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงให้คำแนะนำและประสานความร่วมมือกับชุมชนตรวจตรา เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายจากเหตุเพลิงไหม้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชุมชนที่มีประชาชนพักอาศัยหนาแน่น มีอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก ถนน ตรอก ซอยมีขนาดเล็กและแคบ หรือมีข้อจำกัดทางกายภาพยากต่อการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


 

กทม. ตรวจสอบเหตุสายสื่อสารร่วงหล่นบริเวณถนนหลานหลวงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข

นายขวัญเมือง บุญประสงค์ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ร้องเรียนสายสื่อสารบริเวณสะพานขาว ตลาดโบ๊เบ๊ มุ่งหน้าถนนหลานหลวง เกี่ยวคอเป็นเหตุให้ประสบอุบัติเหตุตกรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ และยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบว่า สำนักงานเขตฯ ได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว โดยผู้บาดเจ็บให้การต่อพนักงานสอบสวน เหตุเกิดจากรถยนต์บรรทุกต้นไม้ขนาดใหญ่เกี่ยวสายสื่อสารขาดบริเวณถนนหลานหลวง หน้าสถานประกอบการแห่งหนึ่ง ทำให้สายสื่อสารหล่นลงมาถูกลำคอ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มาเสียหลักล้ม นอกจากนี้ ยังมีชายอายุ 60 ปี ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาในบริเวณดังกล่าวเสียหลักล้มเช่นเดียวกัน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามหารถยนต์บรรทุกต้นไม้ที่ก่อเหตุ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุและจัดเก็บสายสื่อสารไม่ให้กีดขวางทางสัญจร เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเก็บ เนื่องจากสายสื่อสารดังกล่าว เป็นวัตถุพยานของคดี
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวพบว่า สายที่เกี่ยวคอผู้ประสบเหตุเป็นสายสื่อสารของหน่วยงานผู้ให้บริการที่พาดเสาไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวได้มัดรวบสายสื่อสารให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว พร้อมประสาน กสทช. พิจารณาเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทั้งนี้ สำนักการโยธาได้ประสานความร่วมมือสำนักงาน กสทช. และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อเร่งรัดดำเนินการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริเวณริมถนน ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับผู้สัญจร พร้อมกำชับผู้ให้บริการสายสื่อสารเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการจัดเก็บสายให้เรียบร้อยไม่ให้ห้อยระโยงระยาง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่สัญจร


 

กทม. แจงชุดม้าหินอ่อนหุ้มสเตนเลสในสวนลุมฯ เป็นของชมรม ตั้งใต้ต้นไม้ใหญ่ เกิดผลกระทบแสงสะท้อนค่อนข้างน้อย

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตชุดม้าหินอ่อนในสวนลุมพินีที่หุ้มด้วยสเตนเลส เป็นการเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม เพราะเมื่อได้รับความร้อนสเตนเลสอาจทำให้เกิดไฟไหม้ว่า สสล. ได้ตรวจสอบพบว่า ชุดม้าหินอ่อนในสวนลุมพินีที่หุ้มด้วยสเตนเลส เป็นการดำเนินการโดยผู้ใช้บริการ ซึ่งมีการรวมตัวกันทำกิจกรรมในลักษณะของชมรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โต๊ะม้าหินอ่อนมีความคงทน แข็งแรง สวยงาม และซุ้มดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณใต้ร่มไม้ใหญ่ ซึ่งอาจเกิดผลกระทบแสงสะท้อนค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม สสล. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในสวนลุมพินีให้ตรวจตราดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายตามข้อห่วงกังวลของประชาชนดังกล่าว

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200