(9 ก.ค. 67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการปลุกพลังชุมชนร่วมต้านภัยยาเสพติดตามแผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (มิถุนายน – สิงหาคม 2567) ประจำปี 2567 โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร (ผอ.ปปส.กทม.) พร้อมด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้บริหารสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ผู้แทน บช.น. ปปส.กทม. ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน 50 เขต อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังยาเสพติด หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด และประชาชนร่วมพิธีเปิด กว่า 1,100 คน ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้นำกล่าวประกาศเจตนารมณ์ต่อสู้กับยาเสพติด เนื่องในปี 2567 ซึ่งเป็นปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และงานปลุกพลังชุมชนต้านภัยยาเสพติด ซึ่งประเทศไทยได้มุ่งมั่นรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเพื่อแสดงเจตนารมณ์และพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ภายใต้กรอบแนวคิด “รวมพลังไทย สร้างครอบครัว ชุมชนอุ่นใจ พ้นภัยยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชา” อันนำไปสู่จุดหมายเพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงาน ปปส.ภาค ได้มอบสื่อประชาสัมพันธ์ต้านภัยยาเสพติดให้กับผู้แทนเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินกรุงเทพมหานคร จำนวน 6 พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 1. กรุงเทพเหนือ 2. กรุงเทพกลาง 3. กรุงเทพใต้ 4. กรุงเทพตะวันออก 5.กรุงธนเหนือ และ 6. กรุงธนใต้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์การปลุกพลัง และเพื่อนำไปใช้ในการมีส่วนร่วมของประชาชนในแต่ละชุมชนในโอกาสต่าง ๆ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานว่า การต่อต้านยาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลให้ดำเนินการเร่งด่วนในระยะเวลา 3 เดือน ข้อดีของการดำเนินการคือการบูรณาการประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะระหว่างชุมชนกับภาครัฐ ที่ผ่านมาชุมชนจะรู้ว่าใครเป็นผู้ขายหรือผู้เสพแต่ไม่กล้าดำเนินการ เมื่อภาครัฐ ทั้ง ปปส. บชน. กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปประสานความร่วมมือกับชุมชน จึงทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ข้อดีของการร่วมมือกันคือมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน มีตัวชี้วัดทั้งจำนวนผู้เข้าบำบัด การจับจุมผู้ค้า โดยในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา มีปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เอาจริงเอาจัง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวด้วยว่า อีกประเด็นที่อยากฝากไว้ คือ มีเหตุการณ์คนไร้บ้านมีอาการจากยาเสพติดแล้วทำร้ายคน ซึ่งตรงนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่หลุดรอดจากการดูแลของชุมชน ได้มีการสั่งการให้เทศกิจลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสแกนพื้นที่โดยละเอียดแล้ว นอกจากนี้ ขอให้ทุกคนที่พบเห็นกรณีคนไร้บ้านที่อาจมีอาการทางจิตเวชหรือติดยาเสตติดที่อาจไม่อยู่ในชุมชน แจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานเขต Traffy Fondue สายด่วน 1555 หรือสายด่วน 1386 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงไปดูแล
ด้าน ผอ.ปปส.กทม. กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี เร่งปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งรัด 3 เดือน (มิถุนายน – สิงหาคม 2567) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนนั้น ชุมชนถือเป็นส่วนสำคัญในการร่วมดำเนินการ เพราะเป็นจุดหมายปลายทางให้ผู้เสพที่ได้รับการบำบัดแล้วกลับเข้าสู่ชุมชนและสังคมได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้มีการเอ็กซเรย์กลุ่มเสี่ยงที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป เพื่อตรวจสอบว่ายังมีการเสพยาเสพติดไหม โดยเฉพาะยาบ้าที่มีราคาถูก มีการจำหน่ายจำนวนมาก และสามารถซื้อหามาเสพได้ง่าย เพราะส่งผลให้ผู้เสพมีอาการทางจิตเวชได้ สำหรับผู้เสพที่มีอาการจิตเวชในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 มีประมาณกว่า 4,000 ราย และจากการเอ็กซเรย์กลุ่มเป้าหมายของ ป.ป.ส. คาดว่าจะมีผู้เสพที่มีอาการจิตเวชประมาณ 2,000 – 2,500 ราย จากกว่า 30,000 รายทั่วประเทศ
ในส่วนของประชาชนที่ต้องการแจ้งเบาะแสยาเสพติด สามารถแจ้งได้ทาง สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ฟรี ซึ่งได้มีการเก็บข้อมูลของผู้แจ้งเป็นความลับ เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แจ้ง มีความปลอดภัยสูง โดยเมื่อแจ้งแล้วสามารถดำเนินการจับกุมหรือยึดทรัพย์ผู้ค้าได้ ทาง ป.ป.ส. ได้มีการพิจารณาประโยชน์ตอบแทนให้ผู้แจ้งด้วย
——————————— (พัทธนันท์…สปส. รายงาน)