(4 ก.ค. 67) นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “ประสบการณ์นักบริหาร” แก่ผู้รับการอบรมหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับสูง รุ่นที่ 21 ประจำปีงบประมาณ 2567 ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ เขตปทุมวัน ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่นนอกสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง ประเภทอำนวยการระดับต้น และประเภทวิชาการระดับเชี่ยวซาญ ที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า รวมทั้งสิ้น 41 คน (ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ จำนวน 40 คน และสังกัดหน่วยงานอื่น จำนวน 1 คน)

ทั้งนี้ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงหลักในการทำงานว่า ต้องมีความรอบคอบ ระมัดระวัง และไม่เกรงใจใคร เพราะความเกรงใจจะทำให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ให้ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมาจะทำให้เราโตขึ้น ปัจจุบันการบริหารงานบุคคลของกรุงเทพมหานครมีการปรับเปลี่ยนวิธีการคัดเลือกคนเพื่อดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นให้เป็นธรรมมากขึ้น มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากขึ้น หลีกเลี่ยงระบบอุปถัมภ์ ช่วยลดความขัดแย้งได้ ส่วนตัวแล้วทุกขั้นตอนการทำงานก่อนเป็นผู้บริหารเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หลักที่ต้องเข้มแข็ง คือ ความซื่อสัตย์สุจริต ในการทำงานเมื่อมีความเห็นต่าง ไม่ควรไล่บี้ใครให้จนมุมทุกเรื่อง ควรใช้หลักเหตุผลและพูดในเรื่องที่มีความสำคัญ และในการทำงานต้องมีการกระจายอำนาจ มอบหมายงานให้ผู้รับผิดชอบในส่วนต่าง ๆ จากนั้นให้กำหนดกรอบเวลาในการทำงานที่ชัดเจน โดยยอมรับในความต่างทางศักยภาพของแต่ละคน ใช้คนให้ตรงกับศักยภาพที่มีเพื่อให้ได้งานที่ดี

สำหรับลักษณะของผู้บริหาร คือ ต้องมีวิสัยทัศน์ มองในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น เตรียมพร้อมป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังได้พูดหลายครั้งว่าผู้บริหารต้องคิดว่าจะทำอะไร หรือรู้ว่าจะทำอะไรในตอนที่ไม่มีอะไรจะทำ นอกจากนี้กล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง และกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตัดสินใจลงไปด้วย ต้องมีภาวะผู้นำ เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ดูแลและพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งเสริมความก้าวหน้าของผู้ใต้บังคับบัญชา ช่วยเหลืออะไรได้ก็ช่วย ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยสุจริต ให้ความเป็นธรรม สร้างความมั่นใจศรัทธา ทำงานด้วยความสุข ต้องเป็นผู้นำของทีมเวิร์กและสร้างความเข้มแข็งและแข็งแรงของทีมเวิร์ก บูรณาการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดผลสัมฤทธ์ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล สามารถสรุปเรื่องนำเสนอผู้บริหารทราบได้ภายใน 7-8 นาที นำเสนอข้อมูลผ่านเครื่องมือที่ทันสมัยได้ รู้เทคโนโลยีในการหาคำตอบและเชื่อมโยงข้อมูลได้ ทุกอย่างเป็นทักษะ สามารถพัฒนาได้ อยากให้ทุกคนนำแนวคิดที่ได้รับจากการอบรมไปปรับใช้ในการเป็นนักบริหารที่ดีในอนาคตต่อไป
—————————— (พัทธนันท์…สปส. รายงาน)