คชก.กทม.เตรียมยื่นอุทธรณ์ชี้แจงกระบวนการพิจารณา EIA โครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา – วงศ์สว่างว่า โครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ – วงศ์สว่าง เข้าสู่กระบวนการพิจารณารายงาน EIA ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) ซึ่งมีการประชุมทั้งหมด 6 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 คชก.กทม.มีมติไม่เห็นชอบรายงาน EIA และจบกระบวนการพิจารณา ต่อมาโครงการฯ ได้แก้ไขรายงาน EIA จึงเข้าสู่การพิจารณาครั้งเมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 ซึ่ง คชก.กทม.ได้พิจารณาตามหลักฐานทางวิชาการและข้อกฎหมาย รวมถึงประเด็นข้อร้องเรียนเห็นว่า โครงการดังกล่าวได้จัดทำรายงาน EIA ตามแนวทางรายละเอียดและประเด็นที่ คชก.กทม.กำหนด ประกอบกับได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงมาตรการชดเชยเยียวยาอย่างครบถ้วน จึงให้ความเห็นชอบรายงาน EIA โครงการดังกล่าว ต่อมาศาลปกครองได้มีคำสั่งเรียกให้จัดทำคำให้การแก้คำฟ้องคดีและคำชี้แจง ซึ่งในคดีนี้ศาลได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของ คชก.กทม.ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 ที่ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA โครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ – วงศ์สว่าง เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลมีคำพิพากษา หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยให้มีผลทันที ส่งผลให้รายงาน EIA โครงการดังกล่าว ซึ่งกำหนดเป็นเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตก่อสร้าง หรือรับแจ้งพ้นสภาพบังคับชั่วคราว จึงทำให้ใบอนุญาตก่อสร้าง หรือรับแจ้งการก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย โครงการฯ จะต้องหยุดการก่อสร้าง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายควบคุมอาคารและอาจมีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งศาล ทั้งนี้ คชก.กทม.จะยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาล เพื่อชี้แจงในประเด็นที่ศาลให้ความเห็นว่า อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมายและชี้แจงให้เห็นว่า กระบวนการพิจารณารายงาน EIA ของ คชก.กทม.มีเหตุผลอันสมควรและชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การพิจารณารายงาน EIA โครงการฯ ดังกล่าว คชก.กทม.ได้พิจารณาประกอบทั้งกฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายการผังเมือง รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของผู้ห่วงกังวล โดยกำหนดเป็นมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ในรายงานนี้จะกำหนดไว้เป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และโครงการฯ จะต้องถือปฏิบัติ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ จะมีความผิดตามกฎหมายควบคุมอาคาร โดยสำนักการโยธา กทม.และสำนักงานเขตบางซื่อจะติดตามตรวจสอบให้ปฏิบัติตามมาตรการในรายงาน EIA ขณะที่เจ้าของโครงการฯ จะต้องจัดส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการในรายงาน EIA ให้ กทม.เพื่อส่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ปีละ 2 ครั้ง
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า สนย.ได้ประสานสำนักงานเขตบางซื่อ และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หยุดการก่อสร้างตามคำสั่งศาลแล้ว ขณะเดียวกันได้มีหนังสือแจ้งบริษัทฯ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลางอย่างเคร่งครัด กรณีโครงการฯ บังแดด – บังลม ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำรงชีวิตตามปกติของประชาชนที่พักอาศัยใกล้เคียง เป็นไปตามข้อพิจารณาและหลักเกณฑ์ของ คชก.กทม.ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สนย.ได้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างอาคารจะต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และกฎกระทรวงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2556 ตามหมายเลข ย.8-1 สีน้ำตาล เป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก สามารถก่อสร้างอาคารอยู่อาศัยประเภทอาคารสูงและขนาดใหญ่พิเศษได้ รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการ EIA อย่างเคร่งครัด
นายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างเป็นประจำ เพื่อไม่ให้โครงการฯ ทำงานเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงตรวจสอบค่าระดับเสียง ค่าฝุ่นละออง และการสั่นสะเทือน ซึ่งที่ผ่านมาค่าระดับต่าง ๆ ไม่เกินเกณฑ์ตามที่ EIA กำหนด ส่วนกรณีศาลปกครองมีคำสั่งระงับการก่อสร้าง ได้แจ้งให้โครงการฯ ทราบและระงับการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.65 นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในโครงการฯ ทุกวัน เพื่อไม่ให้มีการละเมิดคำสั่งศาลปกครอง
กทม.เตรียมจัดการเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ ระยะที่ 2 คาดพร้อมให้บริการ พ.ค.66
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง รักษาการผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกต กทม.หยุดให้บริการเดินเรือไฟฟ้าในคลองผดุงกรุงเกษมว่า การจัดการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม ระยะแรก เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.63 และสิ้นสุดสัญญาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.65 โดยที่ผ่านมามีประชาชนมาใช้บริการน้อยมาก อย่างไรก็ตาม สจส.มีแผนโครงการจัดการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม ระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำข้อกำหนดรายการ (TOR) และรูปแบบ โดยจะใช้เรือไฟฟ้า จำนวน 7 ลำ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น. ในเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น จะเดินเรือแบบเรือโดยสาร ส่วนนอกเวลาเร่งด่วนจะเดินเรือแบบเรือโดยสารและเรือเช่าเหมาลำ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือน พ.ค.66 ทั้งนี้ สจส.จะประเมินผลดำเนินโครงการ ระยะที่ 2 เป็นรายปีว่า มีความเหมาะสมคุ้มค่ากับงบประมาณที่จะลงทุนต่อไปหรือไม่
กทม.เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงฯ อีก 4 ช่วง คาดแล้วเสร็จ เม.ย.66
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษมว่า กรุงเทพมหานครได้ ดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม เพื่อฟื้นฟูเมืองเก่า เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างพื้นที่ทำกิจกรรมให้ประชาชน โดยปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 4 ช่วง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน เม.ย.66 ส่วนโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ช่วงจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ – สะพานเทเวศร์นฤมิต อยู่ระหว่างเสนอขอจัดสรรงบกลาง เพื่อดำเนินโครงการต่อไป
ส่วนกรณีมีการโพสต์ภาพบริเวณทางเดินเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงหัวลำโพง ต้นไม้แห้งตายและมีหญ้าขึ้นรก สนย.ได้ประสานผู้รับจ้างเร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้น โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้
ศปถ.กทม.ปฏิบัติการเข้มข้นป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันแห่งความปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2566
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง รักษาการผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กล่าวถึงการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการลดปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาลต่าง ๆ ผ่านการดำเนินการของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร (ศปถ.กทม.) ซึ่งได้ขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดย สจส.ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานเขต กองบังคับการตำรวจจราจร ประชาชน และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญดำเนินการสำรวจและตรวจสวบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณจุดเสี่ยงต่าง ๆ ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ โดยปรับปรุงกายภาพ ไฟฟ้าส่องสว่าง สัญญาณไฟจราจร ป้ายแจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นระยะ เส้นชะลอความเร็ว และอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนรณรงค์แก้ไขพฤติกรรมการขับขี่ให้ปลอดภัยและการส่งเสริมสร้างวินัยจราจร
สำหรับในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้เตรียมการปฏิบัติการเข้มข้นในช่วง 7 วันแห่งความปลอดภัย โดยตรวจสอบสถานบริการและร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และป้องปรามการดื่มแล้วขับ พร้อมทั้งประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พิจารณาบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยและผู้เมาแล้วขับในอัตราโทษสูงสุด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้ทางสัญจร
กทม.ร่วมแก้ปัญหาขอทานต่างด้าว – คนเร่ร่อนย่านราชประสงค์
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพขอทานบริเวณแยกราชประสงค์ว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้บูรณาการความร่วมมือตรวจสอบและแก้ไขปัญหาขอทาน คนเร่ร่อน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาต่างด้าวเข้ามาขอทานและประกอบกิจการหาบเร่แผงลอย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งผลักดันขอทานต่างด้าวกลับประเทศต้นทาง หากพบบุคคลเร่ร่อนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป
นอกจากนั้น ยังได้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจตราพื้นที่ โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยวสำคัญของเขตปทุมวัน บริเวณแยกราชประสงค์ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเทศกิจลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน ผลักดันบุคคลเร่ร่อนนั่งขอทานบริเวณทางขึ้นลงสะพานลอยคนข้ามหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ แยกราชประสงค์ และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาขอทาน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอดส่องดูแลอย่างต่อเนื่องไม่ให้คนเร่ร่อนยึดพื้นที่สาธารณะประกอบอาชีพ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา
กทม.เร่งประสานผู้รับเหมาปรับปรุงพื้นที่ทางเดินเลียบคลองผดุงฯ ก่อนส่งมอบให้สำนักงานเขตดูแล
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์วิจารณ์พบต้นไม้แห้งตายและมีหญ้าขึ้นรกบริเวณทางเดินเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงหัวลำโพงว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ตั้งแต่สะพานนพวงศ์ – ท่าเรือหัวลำโพง รวมระยะทาง 450 เมตร พบว่า ต้นไม้ประดับที่ปลูกในกระถางไฟเบอร์แขวนริมคลองผดุงกรุงเกษม จำนวน 425 ใบ แห้งตาย สำนักงานเขตฯ จึงได้ประสานสำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธา (สนย.) กทม.ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม ที่อยู่ระหว่างส่งมอบงานให้สำนักงานเขตฯ ดำเนินการ โดย สนย.จะให้ผู้รับเหมาปรับปรุงพื้นที่บริเวณดังกล่าวในช่วงระหว่างวันที่ 3 – 7 ม.ค.66 ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้สำนักงานเขตฯ ดูแล อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะดูแลพื้นที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมเป็นการเฉพาะ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้สวยงาม
นายพงษ์จักรรินทร์ ถาวรพงษ์ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กล่าวว่า จากการตรวจสอบทางเดินเลียบคลองผดุงกรุงเกษมในพื้นที่เขตป้อมปราบฯ ไม่พบต้นไม้แห้งตาย อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ให้รับผิดชอบดูแลพื้นที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมเป็นการเฉพาะ เพื่อให้บริเวณดังกล่าวได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ เพื่อบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมให้สวยงาม
เขตสาทรจัดซื้อเครื่องเล่นเด็ก ปรับปรุงห้องน้ำ ติดตั้งไฟส่องสว่างในสวนหย่อม – ลานกีฬาใต้ทางด่วน ซอยอยู่ดี
นายชาติชาย กุละนำพล ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. กล่าวกรณีมีการเสนอแนะให้ กทม.พิจารณาปรับปรุงสวนหย่อมและลานกีฬาใต้ทางด่วน ซอยอยู่ดี เขตสาทร ว่า สำนักงานเขตสาทร ได้ตรวจสอบเครื่องเล่นสำหรับเด็กบริเวณสวนหย่อมและลานกีฬาใต้ทางด่วน ซอยอยู่ดี พบว่า เครื่องเล่นดังกล่าวจัดซื้อมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ มีสภาพชำรุดทรุดโทรม อาจเป็นอันตรายแก่เด็กที่ใช้บริการ สำนักงานเขตฯ จึงได้จำหน่ายเครื่องเล่นเด็กดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และจัดซื้อทดแทนในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 2 เครื่อง โดยนำมาติดตั้งใหม่เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65 และอยู่ระหว่างขอจัดสรรงบประมาณจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กเพิ่มเติมในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ให้เพียงพอต่อผู้ใช้บริการต่อไป นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สำนักงานเขตฯ ได้รับงบประมาณสำหรับปรับปรุงห้องน้ำและติดตั้งระบบไฟฟ้าสวนหย่อมและลานกีฬาใต้ทางด่วน ซอยอยู่ดีใหม่ ขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
กทม.ประสานผู้รับจ้างโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนพระรามที่ 1 เร่งแก้ปัญหาต้นไม้ยืนต้นตาย
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตต้นไม้ยืนต้นตายบริเวณทางเท้าและเกาะกลางถนนพระราม 1 หน้าวัดปทุมวนาราม ทั้งที่เพิ่งปรับปรุงไม่นานว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้ตรวจสอบทางเท้าและเกาะกลางถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่แยกราชประสงค์จนถึงแยกปทุมวัน พบว่า มีต้นไม้ประดับ ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นหลายชนิดยืนต้นตายและระบบน้ำหยดชำรุด จึงได้ประสานสำนักการโยธา กทม.เรื่องการตรวจพื้นที่ก่อนรับมอบดูแลโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนพระราม 1 จากแยกปทุมวัน ถึงแยกราชประสงค์ เพื่อแจ้งบริษัทผู้รับจ้างดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อแล้วเสร็จ จึงจะส่งมอบให้สำนักงานเขตฯ ดูแล รดน้ำต้นไม้และบำรุงรักษาบริเวณทางเท้าและเกาะกลางถนนพระรามที่ 1 ให้มีสภาพแวดล้อมที่สวยงามต่อไป