นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. กล่าวถึงความกังวลของประชาชนต่อกรณีหมอกปกคลุม กรุงเทพมหานคร เมื่อเช้านี้ (5 ต.ค.65) ว่า หมอกที่ปกคลุมเมื่อช่วงเช้าไม่ใช่ฝุ่นหรือ PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน แต่เป็นเพราะมีมวลอากาศเย็น (ความกดอากาศสูง)แผ่ลงมาปกคลุม จึงทำลมเริ่มเปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น เป็นสัญญาณการเริ่มเปลี่ยนแปลงฤดูกาล (จากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว) ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้เกิดหมอกปกคลุมทั่วกรุงเทพฯ ในตอนเช้า
สำหรับค่า Pm2.5 เช้านี้ตรวจวัดได้ในช่วง 11-34 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ตามเกณฑ์กรมควบคุมมลพิษ ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)
ส่วนความกังวลที่ PM2.5 มักจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ทาง กทม. ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยการยกระดับมาตรฐานคุณภาพอากาศให้ใกล้เคียงกับค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด โดยปรับค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง จาก 50 เป็น 37.5 มคก./ลบ.ม.) และค่าเฉลี่ยรายปีปรับลดจาก 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เหลือ 15 มคก./ลบ.ม.
นอกจากนี้ ให้มีการปรับการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ 1 ค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. ระดับ 2 ค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 37.6-50 มคก./ลบ.ม. ระดับ 3 ค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 51-75 มคก./ลบ.ม. และระดับ 4 ค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ 76 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป ซึ่งเมื่อปริมาณฝุ่นอยู่ในระดับไหนจะมีการเพิ่มความเข้มข้นของปฏิบัติการในแต่ละระดับให้สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อกรุงเทพมหานครสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ให้พื้นที่เกิดผลสัมฤทธิ์ สร้างอากาศสะอาด บริสุทธิ์ และปลอดภัยให้ประชาชน
———