นายนภาพล จิระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการการโยธาและผังเมือง สภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมและหารือข้อราชการเกี่ยวกับปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง ตามที่คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง อนุมัติยกเว้นและกำหนดแนวทางปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 โดยมี นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, สำนักการโยธา, สำนักงบประมาณ, สำนักการคลัง และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูลและชี้แจงรายละเอียด ณ ห้องประชุม 10 สภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
นายนภาพลฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จากการที่ภาครัฐกำหนดให้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งได้กำหนดไว้ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างว่า หากผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งเป็นผู้ประกอบการ SMEs เสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดของผู้ยื่นเสนอราคารายอื่นที่ไม่เกินร้อยละ 10 ให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ SMEs ดังกล่าวโดยจัดเรียงลำดับผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งเป็นผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดของผู้ยื่นเสนอราคาอื่นไม่เกินร้อยละ 10 ที่จะเรียกมาทำสัญญาไม่เกิน 3 ราย ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายอื่น และเป็นผลเสียกับท้องถิ่นเอง ที่ต้องเสียส่วนต่างร้อยละ 10
นายนภาพลฯ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้การซื้อวัสดุก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เหล็กกล้า ชีทไพล์ (กำแพงกันดินแบบแผ่น) หรือวัสดุอื่นๆ ด้วยข้อกำหนดของกรมบัญชีกลาง ที่ให้หน่วยงานของรัฐกำหนดรายละเอียดในรูปแบบรายการงานก่อสร้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของวัสดุหรือครุภัณฑ์ที่จะใช้ในงานก่อสร้าง” ทำให้ผู้รับจ้างต้องสั่งซื้อวัสดุที่ผลิตในประเทศเท่านั้น เช่น สำนักการระบายน้ำ ต้องมีการติดตั้งชีทไพล์ เพื่อใช้ในการอุดรอยรั่วของเขื่อนริมแม่น้ำ แต่ปรากฎว่าผู้ผลิตในประเทศไทยมีเพียงรายเดียว เมื่อเทียบราคาที่ผลิตในประเทศ แพงกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งชีทไพล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศมีมาตรฐานสูงกว่า แข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวกว่า นับว่าคุ้มค่ากว่ามาก
นายพีระพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท ให้ข้อเสนอแนะว่า ในงานก่อสร้างผู้รับจ้างที่เป็น SMEs ส่วนใหญ่ทำงานล่าช้า เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางหรือขนาดย่อม อุปกรณ์ เครื่องมือ รวมถึงแรงงาน มีไม่เพียงพอ ทำให้การทำงานหรือการก่อสร้างล่าช้า ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง แจ้งว่าตนได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการหลายราย ว่าชีทไพล์ที่จัดซื้อจากผู้ผลิตรายนี้วัสดุที่ใช้ผลิตมีคุณภาพต่ำ และมีราคาสูงกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ สร้างความเสียหายให้กับกทม. ซึ่งผู้ประกอบการก็จำเป็นที่ต้องซื้อจากผู้ผลิตรายนี้ด้วยข้อกำหนดของกรมบัญชีกลาง จึงอยากให้ฝ่ายบริหารกทม. ทบทวนรวมทั้งติดตามตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์ของกรุงเทพมหานครเอง
นายวิษณุฯ และ นายจักกพันธุ์ฯ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความเห็นพ้องกันว่า ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่กำหนดให้ผู้รับจ้างต้องเป็นผู้ประกอบการ SMEs เช่นกัน เพราะในบางโครงการกรุงเทพมหานครเองต้องเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นจากข้อกำหนดดังกล่าว โดยจะนำเรื่องที่คณะกรรมการฯ เสนอแนะไปทบทวนและปรึกษากับทางกรมบัญชีกลาง เพื่อขอยกเว้นการใช้กฎกระทรวง แต่เนื่องจากเป็นกฎกระทรวงมีผลครอบคลุมในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งประเทศ จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการขอยกเว้นจะสำเร็จหรือไม่ สำหรับเรื่องการจัดซื้อชีทไพล์หรือเหล็กกล้าจะกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
—————–