กทม.เดินหน้าปรับปรุงโรงเรียนฝึกอาชีพ-ศูนย์ฝึกอาชีพ พร้อมจัดแข่งขันทักษะฝีมือ ยกระดับมาตรฐานอาชีพ
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม.กล่าวกรณีมีข้อสังเกตเรื่องการพัฒนาศูนย์ฝึกอาชีพและโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. การจัดกิจกรรมแข่งขันฝีมือของผู้ฝึกอาชีพ และการออกใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ว่า สพส.มีนโยบายพัฒนาด้านกายภาพและภูมิทัศน์ของโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม.ทั้ง 10 แห่ง และศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.ทั้ง ๕ แห่งมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2567 มีแผนการปรับปรุงโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (ดินแดง ๑) เขตดินแดง โรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ) เขตหนองแขม และโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (ประเวศ) เขตประเวศ
ส่วนปี 2568 มีแผนปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (หนองจอก) เขตหนองจอก และโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม. (ดินแดง ๒) เขตดินแดง พร้อมทั้งได้จัดแข่งขันทักษะฝีมือในหมวดวิชาช่างต่าง ๆ จัดโครงการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานอาชีพ
รวมถึงสนับสนุนให้นักเรียนฝึกอาชีพในหลักสูตรต่าง ๆ อาทิ การตัดขนสุนัขและการตัดผม ได้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ
ขณะเดียวกันโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม.ทั้ง ๑๐ แห่ง ได้เผยแพร่ผลงานของนักเรียนที่สำเร็จการศึกษา โดยจัดงานวิชาการประจำปีของแต่ละโรงเรียน เพื่อสร้างช่องทางประชาสัมพันธ์ผลงานของนักเรียนให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชมผลงานและเป็นการต่อยอดด้านอาชีพให้แก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาอีกทางหนึ่ง
ส่วนการมอบใบประกาศนียบัตรวิชาชีพแก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม.และศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.ดำเนินการตามระเบียบ กทม.ว่าด้วยวุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสำหรับผู้จบหลักสูตรการฝึกอบรม พ.ศ.๒๕๔๓
ซึ่งระเบียบ กทม.ดังกล่าวได้กำหนดให้อำนาจลงนามเป็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน หากนักศึกษามีความจำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษาไปประกอบอาชีพเร่งด่วน หรือมีความจำเป็นในกรณีอื่น โรงเรียนฝึกอาชีพ กทม.สามารถออกใบรับรองการจบการศึกษาให้ได้ภายใน 1 วัน
สำหรับศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.การออกวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามระเบียบฯ กำหนดให้อำนาจลงนามเป็นของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ถึง 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม จะได้กำชับโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม.และศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.ให้ส่งมอบใบประกาศนียบัตรและวุฒิบัตรให้รวดเร็วยิ่งขี้น รวมถึงจะตรวจสอบและกำชับเพิ่มเติมกับโรงเรียนฝึกอาชีพ กทม.และศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.ให้บริการแก่ประชาชนด้วยความสุภาพ
นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี กทม.กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. (มีนบุรี) ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบประมาณการ เพื่อขอจัดสรรงบประมาณในปี 2568
ส่วนกรณีที่ระบุเจ้าหน้าที่พูดจาไม่เหมาะสมเมื่อมีการทวงถามการออกวุฒิบัตรของศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. (มีนบุรี) นั้น สำนักงานเขตฯ ได้เข้าตรวจเยี่ยมการให้บริการของเจ้าหน้าที่และตรวจสอบการเรียนการสอนเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งกำชับเพิ่มเติมกับศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.ให้บริการแก่ประชาชนด้วยความสุภาพ เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการด้านอาชีพแก่ประชาชนที่มีคุณภาพต่อไป
กทม.กำชับมาตรการป้องกันอุบัติเหตุดูแลความปลอดภัยโรงเรียนในสังกัด
นายธนกร ไชยศรี ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม.กล่าวถึงมาตรการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องเล่นสนามในโรงเรียนสังกัด กทม.ให้มั่นคงแข็งแรงตามมาตรฐานความปลอดภัย
ว่า กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักเรียน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง จึงกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์
โดยสั่งการให้สำนักงานเขตและโรงเรียนสังกัด กทม.ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ภายในโรงเรียนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา
ขณะเดียวกันให้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนให้เรียบร้อย การติดตั้งสายดินของเครื่องทำน้ำเย็นให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ความพร้อมของอาคารเรียน ห้องเรียน เครื่องเล่นเด็ก รวมทั้งด้านสภาพแวดล้อม ความสะอาด วัสดุการเรียนการสอน
โดยโรงเรียนสังกัด กทม.ได้ดำเนินมาตรการความปลอดภัยและปฏิบัติตามคู่มือโรงเรียนปลอดภัยทั้งก่อนเปิดภาคเรียนและระหว่างเปิดภาคเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ผู้ปฏิบัติงานในใรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครอง
โดยมีผู้อำนวยการสถานศึกษาควบคุมดูแลและกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด
นอกจากนั้น ได้กำชับเรื่องความปลอดภัยในโรงเรียน โดยให้โรงเรียนตรวจสอบความพร้อมของอาคารเรียน ห้องเรียน วัสดุการเรียนการสอน รวมทั้งด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพบริเวณโดยรอบโรงเรียน เช่น ลานกีฬา สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นเด็ก หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพมั่นคง แข็งแรง
หากตรวจพบสภาพพื้นที่ไม่พร้อมใช้งาน หรืออุปกรณ์ชำรุด ให้งดการใช้พื้นที่บริเวณนั้น และเร่งดำเนินการแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.ได้รับความปลอดภัยสูงสุด
กทม.เตรียมพร้อมศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน แนะแนวปฏิบัติประชาชน-กลุ่มเสี่ยงรับมือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสถานพยาบาลสังกัด กทม.เพื่อรองรับการดูแลรักษาผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากภาวะอากาศร้อนว่า สนพ.ได้เฝ้าระวังสถานการณ์ความร้อนและสุขภาพ
โดยติดตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สื่อสารเตือนภัยประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกันได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน รวมทั้งเตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงภาวะฮีตสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้
ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจากการเผชิญกับสภาพอากาศที่มีความร้อนสูง เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมท่ามกลางอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน
สำหรับประชาชนสามารถป้องกันตนเอง โดยหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ หากสามารถเลี่ยงได้ควรเลือกเวลาที่ทำกิจกรรมในช่วงเช้ามืด หรือระหว่างพระอาทิตย์ตกดิน
รวมทั้งควรดื่มน้ำให้มากเพียงพอ หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง ควรมีอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หมวก ร่ม
ส่วนวิธีสังเกตอาการโรคลมแดด ขอให้ระวังหากเกิดอาการตัวร้อนจัด มีไข้สูงกว่า 40-41 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำมาก มีอาการโซเซ เป็นตะคริว รู้สึกเหนื่อย หายใจเร็ว ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตลดลง หรือเป็นลมหมดสติ
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้นำผู้มีอาการเข้าที่ร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก และใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ ศีรษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่า พ่นละอองน้ำ ระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด แล้วรีบนำส่งสถานพยาบาลให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ สามารถติดต่อประสานขอรถบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน สายด่วน 1669 บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวว่า สนอ.ได้จัดทำคําแนะนําการปฏิบัติตัวรับมืออากาศร้อนสําหรับประชาชนทั่วไปและประชาชนกลุ่มเสี่ยง
รวมถึงความรู้เรื่องโรคที่เกิดจากความร้อน อาการ และคําแนะนําการดูแลตนเอง เผยแพร่ผ่านสำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. โรงเรียน สำนักสิ่งแวดล้อม และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อสื่อสารถึงประธานชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข ชมรมผู้สูงอายุ นักเรียน ผู้ดูแลสวนสาธารณะ ผู้ดูแลเด็กเล็ก ผู้ดูแลผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงโรคอ้วน และผู้ทำงานกลางแจ้ง
เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปเตรียมเฝ้าระวัง ตรวจสอบอุณหภูมิอากาศระหว่างวันและปฏิบัติตามคำแนะนำ รวมถึงสังเกตอาการผิดปกติ เพื่อป้องกันอันตราย ลดผลกระทบและเข้าสู่การรักษาได้อย่างทันท่วงที
กทม.เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วย BEST รองรับสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวน
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำและสถานีสูบน้ำของ กทม.เพื่อรองรับสภาพอากาศแปรปรวนที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ
ว่า กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำและสถานีสูบน้ำของ กทม.เพื่อรองรับสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองจากอิทธิพลของสภาพอากาศแปรปรวนที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ
โดยเร่งลดระดับน้ำในคูคลอง บ่อสูบน้ำ และแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
จัดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ (หน่วย BEST) เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก พร้อมตรวจสอบเร่งระบายน้ำตามจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวัง และบริเวณทางอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ
พร้อมทั้งจัดเก็บขยะหน้าตะแกรงช่องรับน้ำฝน ขยะหน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จัดเก็บขยะวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อให้ไหลได้สะดวกรวดเร็ว
ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำกรณีไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุกติดตั้งเครนยกไฮโดรลิค บอลลูนไลท์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อติดตั้งและตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำเครื่องผลักดันน้ำ การจัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอสำหรับเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลที่ใช้งานในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม
นอกจากนั้น ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติงานภายในศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมติดตาม ตรวจสอบเฝ้าระวังสภาพอากาศตามการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาและตรวจสอบติดตามกลุ่มฝนด้วยเรดาร์ตรวจอากาศของ กทม.
รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก กทม.เช่น ปัญหาต้นไม้ใหญ่หักโค่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่โค่นล้ม และปัญหาน้ำท่วมขัง
อีกทั้งยังได้เปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนและอิทธิพลของพายุฤดูร้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนรับทราบแบบเรียลไทม์ เพื่อขอรับความช่วยเหลือหากประสบเหตุสาธารณภัยที่
เกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อนผ่านเว็บไซต์ https://dds.bangkok.go.th/, https://pr-bangkok.com/, Facebook:@BKK.BEST และ X(Twitter):@BKK_BEST รวมถึงรับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร.02 248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue