ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5
วันที่ 28 ก.พ. 2567 เวลา 05.00-07.00 น.
วันที่ 28 ก.พ. 2567 เวลา 05.00-07.00 น.
– ตรวจวัดได้ 26.1-47.1 มคก./ลบ.ม.
– ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 37.1 มคก./ลบ.ม.
– ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 25 พื้นที่
ทั้งนี้ ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ในช่วง 26.1 – 46.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 25 พื้นที่ คือ
1.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 46.9 มคก./ลบ.ม.
2.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.
3.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 45.9 มคก./ลบ.ม.
4.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.
5.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 45.1 มคก./ลบ.ม.
6.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 44.9 มคก./ลบ.ม.
7.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 44.2 มคก./ลบ.ม.
8.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.
9.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม.
10.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 42.4 มคก./ลบ.ม.
11.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 40.7 มคก./ลบ.ม.
12.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 40.4 มคก./ลบ.ม.
13.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 40.4 มคก./ลบ.ม.
14.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
15.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
16.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.
17.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.
18.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
19.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 38.5 มคก./ลบ.ม.
20.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 38.3 มคก./ลบ.ม.
21.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.
22.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.
23.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.
24.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.
25.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.
ข้อแนะนำสุขภาพ:
คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
1. ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.- 7 มี.ค. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เนื่องจากมีสภาวะอากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะค่อนข้างปิด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว และคาดการณ์วันนี้มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
2. จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 จำนวน 2 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 – 2 เวลา 13.41 น. แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก
(อยู่ระหว่างประสานงานตรวจสอบจุดความร้อน)
3. แจ้งเตือนรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง
– แอปพลิเคชัน AirBKK
– FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
– FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
– FB: กรุงเทพมหานคร
– LINE ALERT
– LINE OA @airbangkok
ทั้งนี้ กรณีประชาชนพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแส ผ่านทาง Traffy Fondue
รายงานข้อมูลโดย: ทีมโฆษกศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร
แหล่งข้อมูล: ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร กรมอุตุนิยมวิทยา และสํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ