(16 ก.พ. 67) เวลา 07.45 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร พร้อมอัปเดตสถานการณ์ฝุ่น PM2.5
สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพหานครในช่วงเช้าวันนี้ดีขึ้น โดยวานนี้ (15 ก.พ. 67) ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพกว่า 10 พื้นที่ แต่เช้าวันนี้ไม่มีค่าฝุ่นเป็นสีแดง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสีส้มและมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ตัวเลขค่าฝุ่นที่รายงานในแต่ละช่วงเวลาโดยศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศฯ นั้น เป็นค่าเฉลี่ย 24 ชม. เพื่อไม่ให้ตัวเลขมีค่าขึ้น-ลง มากเกินไป แต่หากดูค่าฝุ่นเป็นรายชั่วโมง จะพบว่าลดลงมากจากเมื่อวาน และภาพรวมตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มดีขึ้น
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องปัญหาฝุ่น PM2.5 ท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมากและได้เร่งรัดการดำเนินการ โดยกำชับว่าอย่าเพียงแค่พึ่งสภาพอากาศหรือลมที่จะช่วยให้ค่าฝุ่นลดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เราต้องดูแหล่งกำเนิดฝุ่นด้วยเพราะปัญหาฝุ่นมาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ สภาพอากาศปิดและลมไม่ถ่ายเท ฝุ่นจากยานพาหนะ และฝุ่นจากการเผาไหม้ ซึ่งในกรุงเทพฯ สิ่งที่ช่วยกันได้ดีที่สุดคือการลดการใช้รถยนต์ จึงเป็นเหตุผลที่กทม.ประกาศขอความร่วมมือ Work from Home ในช่วงค่าฝุ่นเป็นสีแดงหลายพื้นที่เมื่อ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา รวมถึงแคมเปญ “รถคันนี้#ลดฝุ่น” ที่กทม.ทำร่วมกับเอกชนเชิญชวนให้ประชาชนเปลี่ยนไส้กรองและน้ำมันเครื่อง ช่วยลดฝุ่นจากภาคการจราจรอีกทาง โดยความคืบหน้าโครงการ รถคันนี้#ลดฝุ่น (ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.66 – 12 ก.พ. 67) มีจำนวนรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองแล้ว จำนวน 202,564 คัน ช่วยลด PM2.5 จากภาคการจราจรได้แล้ว 10% ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครและภาคีเครือข่ายได้ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองรถยนต์ไว้ที่ 300,000 คัน ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งหากทำได้จะสามารถลด PM2.5 จากการจราจรได้ถึง 15%
“ได้เรียนท่านนายกฯ ว่า มีหลายมาตรการที่กทม.ต้องร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ทั้งนี้มาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมาต้องรอบคอบ ลดฝุ่นได้จริง และไม่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยไม่จำเป็น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
———-