Search
Close this search box.
ผู้บริหารเขตมีนบุรีห่วงใย ลงพื้นที่ฯ สังเกตุการณ์ในสถานศึกษาเข้มงวดการห้ามพกพาอาวุธ เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน



วันนี้ (30 ม.ค.67) เวลา 06.00 น. นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี พร้อมด้วยนายศุภกร ธนพรชูช่วง หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตมีนบุรี (ระดับมัธยม) จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน โรงเรียนบ้านเกาะ โรงเรียนวัดใหม่ลำนกแขวก และโรงเรียนวัดทองสัมฤทธิ์เพื่อเฝ้าสังเกตุการณ์ พร้อมสุ่มตรวจนักเรียนห้ามพกพาอาวุธอย่างเข้มข้น โดยมีผู้อำนวยการสถานศึกษา และคณะครูให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยมฯ

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.67) มีข่าวการเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญและคำนึงถึงความปลอดภัยของครูและนักเรียน จึงได้มีนโยบายเร่งด่วน เรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาของกรุงเทพมหานครและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน โดยสั่งการให้โรงเรียนมัธยมในสังกัดกรุงเทพมหานคร มีการสุ่มตรวจเข้มนักเรียน ห้ามพกพาอาวุธมายังสถานศึกษา เพื่อป้องปรามและป้องกัน มิให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก

พร้อมนี้ ผู้อำนวยการเขตมีนบุรีได้มอบนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ให้แก่ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตมีนบุรี ให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาของกรุงเทพมหานครและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ดังนี้

1.ผู้อำนวยการสถานศึกษาและคณะกรรมการชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน โดยห้ามมิให้บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงผู้มาติดต่อกิจธุระ มีหรือครอบครองสารเสพติดทุกประเภทที่กฎหมายระบุ มิให้มีการทำร้าย หรือรังแก จัดพื้นที่ให้เป็นเขตปลอดอาวุธ รวมถึงการจัดการจราจรโดยรอบสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน

2.จัดให้มีกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เครื่องมือการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งกำหนดมาตรการต่างๆ ให้รัดกุม เหมาะสม สำหรับการรักษาความปลอดภัยสถานที่และบุคคล

3.บุคคลภายนอกที่จะเข้ามาในพื้นที่สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนต้องได้รับการตรวจสอบถาม รวมถึงการแสดงตนอย่างเคร่งครัดทุกราย

4.สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน จะต้องปิดประตูในระหว่างเวลาเรียนโดยตลอดเวลา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องทำการสอบถามบุคคล ตลอดจนยานพาหนะที่จะผ่านเข้าบริเวณสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน

5.ติดตั้งระบบเตือนภัยในจุดที่เหมาะสมในสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนเพื่อแจ้งเตือนเป็นส่วนรวมเมื่อเกิดเหตุการณ์บุกรุกในลักษณะเดียวกับการแจ้งเหตุเพลิงไหม้

6.จัดให้มี “ประตูทางออกฉุกเฉิน” ของสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากช่องทางปกติ

7.จัดให้มีการชักซ้อม อบรม ชี้แจง ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนในสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทุกภาคเรียน หรืออย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง โดยเฉพาะ “เส้นทาง” ในการออกจากพื้นที่เกิดเหตุ และจัดทำลูกศรขี้ทิศทางการอพยพเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียน

8.บุคลากรในสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ต้องมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานีตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถติดต่อสื่อสารได้ในทันที กรณีเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น

9.ประสานชุมชนบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน รวมถึงฝ่ายเทศกิจ สถานีตำรวจ และศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ ให้มีส่วนร่วมในมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการแจกเอกสารพบปะสนทนา เพื่อ “สร้างแนวร่วม” ในการแจ้งเตือนทั้งในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเหตุฉุกเฉิน

10.ให้ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายการศึกษา หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนอาสาสมัคร กวดขัน ย้ำเตือน กำกับดูแล มาตรการรักษาความปลอดภัย โดยรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ตามมาตรการนี้โดยเคร่งครัด

>>ทั้งนี้ ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี ได้สั่งการผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการตรวจเข้มความปลอดภัยของนักเรียน เข้มงวดการห้ามพกพาอาวุธในสถานศึกษา โดยให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในชีวิตของครูและนักเรียน และสั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และตรวจสอบความปลอดภัยในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ

รูปภาพเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/media/set?vanity=minburioffice&set=a.715929090721606

ภาพ : กฤษฎ์และฝ่ายเทศกิจ / ข่าว : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเขตมีนบุรี

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200