(23 ม.ค.67) เวลา 13.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตหนองแขม ประกอบด้วย

สำรวจสวน 15 นาที บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองแขม ซอยเพชรเกษม 79 เขตฯ มีสวน 15 นาที ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์แล้วเสร็จ 5 แห่ง ได้แก่ 1.สวนปากซอยเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ 5/2 (ซอยจันทร์จรัส) พื้นที่ 100 ตารางวา เป็นพื้นที่ที่มีผู้บริจาคให้กรุงเทพมหานคร 2.สวนใต้สะพานข้ามคลองกำนันเทียน ถนนพุทธมณฑลสาย 3 พื้นที่ 875 ตารางวา โดยพัฒนาเพิ่มพื้นที่สีเขียว จุดชมวิว และพื้นลาดยาง เพื่อให้ประชาชนออกกำลังกายและนั่งเล่นพักผ่อน 3.วัดวงษ์ลาภาราม พื้นที่ 25 ตารางวา พัฒนาพื้นที่สวนหน้าอุโบสถวัด ปลูกไม้ประดับ จุดนั่งพักให้ประชาชนในชุมชนได้มาใช้ประโยชน์และพักผ่อนหย่อนใจ 4.วัดทองเนียม พื้นที่ 100 ตารางวา ปรับปรุงพื้นที่สวนป่า เพิ่มเก้าอี้เป็นจุดนั่งพักเพื่อให้ประชาชนรอใส่บาตร 5.สวนริมคลองภาษีเจริญ หลังโรงเรียนประชาบำรุง พื้นที่ 100 ตารางวา จัดทำจุดเช็คอินริมคลองภาษีเจริญ เพื่อให้ประชาชนนั่งเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศริมคลองภาษีเจริญ สำหรับสวน 15 นาที (สวนใหม่) ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนถนนเพชรเกษม 79 ด้านหน้าสำนักงานเขตหนองแขม พื้นที่ 112.5 ตารางวา โดยออกแบบภูมิทัศน์ให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ 2.สวนวัดศรีนวลธรมวิมล พื้นที่ 100 ตารางวา ออกแบบจัดสวน เพิ่มพันธุ์ไม้และวัสดุอุปกรณ์จัดสวน เก้าอี้นั่งพักผ่อน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่เพื่อจัดทำสวน 15 นาที ออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงกับความต้องการของชุมชน โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างแท้จริง

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ โรงเรียนบ้านขุนประเทศ ซอยเพชรเกษม 110 พื้นที่ 6 ไร่ 1 งาน 41 ตารางวา มีครูบุคลากรและนักเรียน 1,639 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2565 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะอินทรีย์และขยะเศษอาหาร โดยมีการจดบันทึกน้ำหนักสถิติทุกวัน ประสานเกษตรกรในพื้นที่มารับขยะเศษอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ได้นำเศษใบไม้เศษอาหารมาผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ 2.ขยะรีไซเคิล ตั้งวางจุดรับทิ้งขยะรีไซเคิล ประเภทขวดน้ำพลาสติกตามจุดต่างๆ เพื่อสะดวกต่อการนำมาทิ้งและจัดเก็บ ตั้งวางจุดแยกขยะภายในห้องเรียน ได้แก่ ขยะทั่วไป ขยะรีไซเคิล (ขวดน้ำ กระดาษ) คัดแยกกล่องนมโรงเรียน (ตัด ล้าง ตาก) คัดแยกขยะพลังงาน (RDF) / ขยะกำพร้า เพื่อรอกำจัดอย่างถูกวิธี รวบรวมขยะรีไซเคิลจากห้องเรียน ชั่งน้ำหนัก รอการจำหน่าย นำเงินที่ได้มาจัดกิจกรรมของนักเรียน ส่งเสริมให้มีการบูรณาการจัดการขยะในกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียน อาทิ กระถางจากไม้ไอศกรีม ที่ใส่ดินสอจากขวดน้ำ ดอกไม้จากถุงใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถังขยะจากฝาขวดน้ำพลาสติก สบู่จากน้ำมันพืชใช้แล้ว 3.ขยะทั่วไป ตั้งวางจุดรวบรวมทิ้งขยะภายในโรงเรียน เขตฯ ดำเนินการจัดเก็บขยะทุกวัน 4.ขยะอันตราย มีจุดรวบรวมขยะอันตราย และแจ้งเขตฯ ดำเนินการจัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 2,400 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 980 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 20 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 105 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์ก่อนคัดแยก 500 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 197 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 0.5 กิโลกรัม/เดือน ขยะพลังงาน (RDF) / ขยะกำพร้าหลังคัดแยก 25 กิโลกรัม/เดือน

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 แพลนท์ปูนบริษัท คิวมิกซ์ซัพพลาย จำกัด ถนนพุทธมณฑสาย 3 พื้นที่ 174 ตารางเมตร คนงาน 13 คน เครื่องจักร 1 เครื่อง กำลังเครื่องจักรโดยรวม 48 แรงม้า ซึ่งประกอบกิจการประเภทการการสะสม ผสมซีเมนต์ หิน ดิน ทราย วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งการขุด ตัก ดูด โม่ บด หรือย่อย ด้วยเครื่องจักร (ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำโดยรอบ พร้อมตรวจสอบให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปรับปรุงบ่อคายกากคอนกรีตในจุดที่แตกร้าว ซึ่งทำให้มีน้ำและเศษปูนไหลออกมาด้านนอก รวมทั้งไม่ให้นำเศษปูนที่ตกตะกอนไปทิ้งในที่ดินฝั่งตรงข้ามทางเข้าแพลนท์ปูน ปรับปรุงบ่อล้างล้อให้อยู่ในจุดที่รถโม่ปูนวิ่งผ่านเข้า-ออก ล้างทำความสะอาดพื้นทางเข้า-ออกแพลนท์ปูนอย่างสม่ำเสมอ ตรวจวัดควันดำรถโม่ปูนตามรอบเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาทิ ประเภทหล่อหลอมโลหะ 2 แห่ง ประเภทกิจการที่มีการใช้หม้อไอน้ำ (Boilers) 3 แห่ง ประเภทแพลนท์ปูน 2 แห่ง ประเภทตรวจวัดควันดำในสถานที่ต้นทาง 7 แห่ง โดยกำชับให้สถานประกอบการในพื้นที่ปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อร่วมกันลดมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า ซึ่งเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 5 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 246 ราย ได้แก่ 1.หน้าบริษัท นันยาง จำกัด ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 25 ราย 2.หน้าศูนย์การค้าหนองแขม ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 79 ราย 3.ปากซอยเพชรเกษม 79 ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 19 ราย 4.หน้าหมู่บ้านหรรษา ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 109 ราย 5.หน้าบริษัท อุตสาหกรรมท่อน้ำไทย จำกัด ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ผู้ค้า 14 ราย ส่วน Hawker Center จำนวน 2 จุด ได้แก่ 1.ศูนย์อาหารโรงไม้ 110 ถนนเพชรเกษม รองรับแผงค้าได้ 250 แผง 2.ตลาดครอบครัว ถนนเพชรเกษม 81 รองรับแผงค้าได้ 200 แผง โดยจัดเก็บค่าเช่าในอัตราที่ตลาดกำหนด

ในการนี้มี นางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตหนองแขม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี
—–  (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)