กทม. จับมือบางจากและบีทีเอส บิดคันเร่งจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto สร้างบริการขนส่งสาธารณะด้วยพลังงานสะอาด สู่การเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าตลอดเส้นทาง

(12 ม.ค.67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมในงานเปิดตัว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto (ปิ่นโต) โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) คณะผู้บริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท วินโนหนี้ จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก สำนักการจราจรและขนส่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ลานจอดแล้วจรสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต

ภายหลังพิธีปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ ได้เยี่ยมชมการสาธิตวิธีใช้งานตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto โดยบริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด (Smart EV Bike) บริษัทร่วมทุนของบริษัท วินโนหนี้ จำกัด (Winnonie) บริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่มบริษัทบางจาก และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) ในบริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อสร้างบริการขนส่งสาธารณะระบบรอง หรือ Feeder ที่สะดวกปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมเปิดตัวโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าปิ่นโต ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้เป็นทางเลือกของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อให้เปลี่ยนมาใช้เป็นระบบไฟฟ้าแทนระบบเครื่องยนต์ โครงการนี้นับว่าสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่เคยกล่าวไว้ คือการลดภาระค่าใช้จ่าย และสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยายกาศ และขอย้ำว่ามีความมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกันกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในระบบขนส่งสาธารณะ หรือเฉพาะจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญในฐานะที่เป็นขนส่งที่สามารถพาผู้โดยสารไปยังจุดเป้าหมายสุดท้ายได้ ที่จะอำนวยความสะดวกในการรับส่งพี่น้องประชาชนในการเดินทาง ให้สามารถเชื่อมต่อกับขนส่งสาธารณะได้ เช่น รถไฟฟ้า
เชื่อว่าหากมีการปรับเปลี่ยนมาใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกันเป็นจำนวนมากแล้ว นอกจากยังเป็นการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดก๊าซเรือนกระจก และช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ด้วยแล้ว ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานของจักรยานยนต์รับจ้าง และช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้มากขึ้นอีกด้วย สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำโครงการดี ๆ นี้ขึ้นมาเพื่อสังคม เพื่อประโยชน์ให้กับประชาชน และเพื่อสิ่งแวดล้อม

นายวิศณุ ทรัพย์สมผล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหา PM2.5 เป็นปัญหาสำคัญที่ประชาชนคนกทม. ได้พบเจอ การที่มีโครงการ EV มอเตอร์ไซค์ เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะการเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์ธรรมดาเป็น EV นอกจากจะช่วยให้มลภาวะลดลง หรือลด PM2.5 แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายของพี่น้องมอเตอร์ไซค์วินเกือบ 90,000 คัน ซึ่งในกทม. เรามีวินมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 5,556 วิน ซึ่งทางกทม.ก็มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกิด Ecosystem ในทุกรูปแบบ การช่วยทำให้มอเตอร์ไซค์เปลี่ยนมาเป็น EV ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Ecosystem เกิดขึ้น เร็วขึ้น ง่ายขึ้น การมี Swap Station ก็จะอยู่ในนโยบายอยู่แล้ว สุดท้ายนี้ในนามของกทม. ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้กทม. เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

สำหรับวินโนหนี้เป็นสตาร์ทอัพภายในองค์กรของบางจากฯ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 ด้วยการนำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มายกระดับคุณภาพชีวิตของจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์การเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทบางจาก และเป็นการสร้าง Net Zero Ecosystem หรือระบบนิเวศเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทฯ ในปี 2593 ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 1,000 ราย ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ จำนวน 120 สถานี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งถือเป็น Win-Win Solution ใน 3 ด้าน คือช่วยให้ชีวิตผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ดีขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเช่าใช้จักรยานยนต์ ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ 48,000 บาทต่อคนต่อปี รวม 48 ล้านบาทต่อปี โลกดีขึ้นจากการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด วินโนหนี้วิ่งใช้งานแล้วมากกว่า 42 ล้านกิโลเมตร ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปประมาณ 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศ ลดการเกิดฝุ่น PM2.5 และมลภาวะทางเสียง จากการที่วินโนหนี้พัฒนาโดยคนไทยในประเทศไทย ทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรม การพัฒนาคนและการสร้างงานในประเทศ นับเป็นอีกความก้าวหน้าทางธุรกิจที่สำคัญของวินโนหนี้ ในการร่วมเริ่มตันธุรกิจให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติของวินโนหนี้ ที่ครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะสถานีที่จะตั้งเพิ่มเติมตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อให้เกิดความสะดวกและเพียงพอต่อการใช้งานมากขึ้น เพื่อให้ผู้โดยสารบีทีเอสมีประสบการณ์การเดินทางแบบ First Mile to Last Mile ด้วยพลังงานสะอาด คือสามารถเดินทางออกจากบ้านจนถึงกลับเข้าบ้านด้วยการบริการขนส่งสาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าตลอดเส้นทาง

—–  (จิรัฐคม…สปส./ณิชนันทน์…นศ.ฝึกงาน รายงาน)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200