(15 ธ.ค. 65) เวลา 09.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการดำเนินการเคลื่อนย้ายซากยานยนต์ บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 5 เขตหลักสี่
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักเทศกิจ ร่วมกับสำนักงานเขตหลักสี่ ดำเนินการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ เนื่องจากกีดขวางการจราจรและการเดินทางสัญจรของประชาชนในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้จากการสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 65 พบว่าในพื้นที่เขตหลักสี่ มีซากยานยนต์จอดทิ้งไว้ จำนวน 4 คัน เจ้าของรถได้เคลื่อนย้ายไปแล้ว 1 คัน แจ้งผู้ครอบครองให้ทำการเคลื่อนย้าย 2 คัน โดยวันนี้เขตฯ ร่วมกับสำนักเทศกิจ กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง และสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เคลื่อนย้ายซากยานยนต์ 1 คัน บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 5 ที่ผ่านมาเขตฯ ได้ปิดประกาศให้เคลื่อนย้ายซากยานยนต์ดังกล่าวแล้วเป็นเวลา 15 วัน แต่ยังไม่มีผู้ใดมาทำการเคลื่อนย้าย และจากการตรวจสอบไม่พบเจ้าของซากยานยนต์ นอกจากนี้ได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เพื่อตรวจสอบว่าซากยานยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทางคดีหรือเป็นของกลางทางคดีหรือไม่ สำหรับการเคลื่อนย้ายซากยานยนต์ได้รับการสนับสนุนรถยกจากกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง เพื่อนำซากยานยนต์ดังกล่าวไปเก็บไว้บริเวณสถานที่เก็บรักษาของกลางกรุงเทพมหานคร เขตหนองแขม เมื่อมีผู้ครอบครองมาติดต่อรับซากยานยนต์คืนจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีผู้ครอบครองมาติดต่อขอรับคืนจะจัดเก็บซากยานยนต์ไว้เป็นระยะเวลา 6 เดือน จากนั้นจะดำเนินการขายทอดตลาดซากยานยนต์ดังกล่าวตามระเบียบของทางราชการว่าด้วยการดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจอดทิ้งซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตในพื้นที่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่สาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ในการเคลื่อนย้ายซากยานยนต์วันนี้มี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นางสมฤดี ลันสุชีพ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตหลักสี่ สำนักเทศกิจ กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)