(2 ธ.ค.66) เวลา 11.00 น. นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา เปิดเผยว่า กรณีมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เรื่องสะพานทางเท้าชำรุด บริเวณชุมชนคลองลำกะดาน นั้น เป็นพื้นที่เขตคลองสามวา โดยจุดดังกล่าว เป็นสะพานทางเดินริมคลองลำกระดาน ติดกับถนนนิมิตใหม่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของชุมชนคลองลำกระดาน ซอยนิมิตใหม่ 59 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยสะพานทางเท้าฯ ดังกล่าว มีสภาพชำรุด ซึ่งทางฝ่ายโยธา ได้มีการติดตั้งป้ายห้ามใช้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการเขตคลองสามวา และผู้บริหารเขตคลองสามวา ลงตรวจสอบพื้นที่ พร้อมพูดคุยหารือ ร่วมกับทางประธานกรรมการชุมชนคลองลำกระดาน พร้อมได้สั่งการเร่งรัดการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้ตรวจสอบสะพานทางเท้า ริมคลองลำกระดาน ซึ่งมีข้อสรุปที่ว่าจะใช้งบประมาณภายใต้โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

จากนั้น ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ได้ดำเนินการเปิดประชาคมชุมชน เพื่อพิจารณาคัดเลือกรายการซ่อมแซมในชุมชนภายใต้โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และชุมชนคลองลำกระดาน ได้เสนอรายการซ่อมแซมทางเดินริมคลองฯ

ต่อมา สำนักงานเขตคลองสามวา ได้จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนระดับเขต ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 และได้พิจารณาอนุมัติโครงการดังกล่าว เพื่อซ่อมแซมทางเดินริมคลองลำกระดาน ใช้งบประมาณซ่อมแซม 166,600 บาท (ยอดประมาณราคาจากฝ่ายโยธา) ผ่านคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 และคาดว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและจะได้ตัวผู้รับจ้างดำเนินการซ่อมแซมได้ช่วงประมาณเดือน ม.ค. – ก.พ. 67 ซึ่งจะต้องใช้เวลาตามการดำเนินการตามกระบวนการข้างต้น

จากประเด็นข้างต้น ทางสำนักงานเขตคลองสามวา จึงได้มอบหมายฝ่ายโยธา ให้ใช้แนวทางการซ่อมแซม โดยใช้งบประมาณรายการซ่อมแซมถนนตรอกซอยหรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสาธารณประโยชน์ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขึ้น โดยคาดว่าจะดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงแล้วเสร็จ ภายในเดือนมกราคม 2567 ต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ทั้งนี้ สำหรับกรณีฯ ดังกล่าว ที่เกิดขึ้น สำนักงานเขตคลองสามวา ขอน้อมรับ และพร้อมที่จะแก้ไข ปรับปรุง กระบวนการดำเนินงาน เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน และต้องขออภัยในความไม่สะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว