กทม.เตรียมซ่อมไฟฟ้าส่องสว่างถนนอุทยานตัดกับถนนพุทธมณฑล สาย 4
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนไฟฟ้าส่องสว่าง (รูปหงส์) บริเวณหัวถนนอุทยาน (อักษะ) ตัดกับถนนพุทธมณฑล สาย 4 ดับชำรุดมานานและยังไม่ได้รับการแก้ไขว่า สนย.ได้สำรวจตรวจสอบ พร้อมออกแบบและตั้งงบประมาณซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้รับงบประมาณจะซ่อมแซมโดยเร่งด่วน ขณะเดียวกัน สนย.และสำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต ได้ประสานความร่วมมือสำรวจตรวจสอบและซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นประจำสม่ำเสมอ ทั้งที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ กทม.และหน่วยงานอื่นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตลอดจนดำเนินมาตรการเชิงรุกตรวจสอบและบำรุงรักษาไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนสายต่าง ๆ ของ กทม.เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรให้แก่ประชาชนและเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน
กทม.ประสาน ทล.เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนวิภาวดีรังสิต เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม.กล่าวกรณีมีน้ำท่วมขังบริเวณแยกรัชโยธินและห้าแยกลาดพร้าวหลังฝนตกต่อเนื่องว่า สำนักงานเขตจตุจักร ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณดังกล่าว โดยประสานกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อแก้ไขปัญหาการปิดกั้นน้ำที่คูระบายน้ำถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 38 จุด เมื่อเดือน เม.ย.66 เนื่องจากส่งผลให้การระบายน้ำถนนวิภาวดีรังสิตไม่สามารถระบายได้ โดย ทล.ได้ลดระดับทำนบปิดกั้นน้ำให้ต่ำลงและบางแห่งเปิดช่องเล็ก ๆ ให้น้ำระบายออกไปได้บ้างแล้ว ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้ประสานสำนักการระบายน้ำ (สนน.) เร่งสูบน้ำระบายออกจากพื้นที่ ส่วนจุดวิกฤตที่ถนนรัชดาภิเษกบริเวณหน้าศาลอาญาสามารถระบายน้ำออก 2 ทางคือ (1) ระบายออกทางคลองน้ำแก้ว ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างปรับปรุงเขื่อน ค.ส.ล.เดิม จากค้ำยันด้านบนเป็นแบบดาดท้องคลองของ สนน. ซึ่งปิดกั้นคลอง สำนักงานเขตฯ จึงแจ้งให้ สนน.แก้ไขการปิดกั้นคลองและเปิดช่องให้น้ำระบายออกไปทางประตูระบายน้ำคลองน้ำแก้ว เพื่อสูบออกคลองลาดพร้าว (2) ระบายออกทางคลองเปรมประชากรผ่านสถานีสูบน้ำรัชดาวิภาวดี ขนาด 12 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที โดย สนน.ได้สูบเต็มที่ อีกทั้งได้ร่วมกับ สนน.ลงพื้นที่ตรวจสอบการแก้ไขน้ำท่วมถนนวิภาวดีรังสิตและร่วมกับสำนักการโยธา (สนย.) ตรวจรับมอบพื้นที่ถนนลาดพร้าวจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบริเวณแยกรัชดา – ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 โดยไม่พบปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า
นอกจากนั้น ยังได้เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ประจำจุดเก็บขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ โดยจัดเจ้าหน้าที่งานระบายน้ำ ฝ่ายโยธา เข้าประจำเครื่องสูบน้ำบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วม ได้แก่ ซอยพหลโยธิน 49 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3-2 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3-4 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3-6 ซอยรัชดาภิเษก 32 และซอยวิภาวดีรังสิต 17 พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจลงพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะจัดเก็บขยะและเศษวัสดุตกค้างหน้าตะแกรงรับน้ำริมถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำ
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวว่า ตั้งแต่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศการเข้าสู่ฤดูฝนเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สนน.ได้ปฏิบัติการตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยลดระดับตามคูคลองและแก้มลิงต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง แต่ฝนที่ตกหนักลงมาในพื้นที่บริเวณแยกรัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว ทำให้ระดับน้ำในคลองลาดพร้าวและคลองอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดน้ำท่วมขังบริเวณถนน ตรอกซอยต่าง ๆ ได้เร่งระบายน้ำโดยสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ระบายน้ำทุกแห่งอย่างเต็มที่ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ อุโมงค์ระบายน้ำจากบึงมักกะสันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและอุโมงค์ระบายน้ำคลองลาดพร้าว อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ โดยเฉพาะอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ มีขนาดอัตราการระบายน้ำ 60 (ลบ.ม.)/วินาที ช่วยเร่งระบายน้ำในคลองบางซื่อและคูคลองสาขาต่าง ๆ เช่น คูน้ำถนนวิภาวดีรังสิต คลองพญาเวิก คลองน้ำแก้ว คลองห้วยขวาง ครอบคลุมพื้นที่เขตห้วยขวาง ดินแดง พญาไท จตุจักร ลาดพร้าว วังทองหลาง บางซื่อ และดุสิต นอกจากนั้น ยังจัดเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำตามบ่อสูบน้ำ เจ้าหน้าที่หน่วยเบสท์ (Best) ประจำจุดเสี่ยง พร้อมทั้งจัดเก็บขยะหน้าตะแกรงช่องรับน้ำฝน หน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ และหน้าตะแกรงอาคารรับน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าแบบโมบายยูนิต (เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่) จำนวน 4 ตัว บริเวณถนนรัชดาภิเษกและถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เขตปทุมวันจัดระเบียบผู้ค้าหน้าศาลพระพรหม ร่วมกับตำรวจตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพผู้ค้าตั้งวางสิ่งของกีดขวางทางสัญจรบริเวณศาลท้าวมหาพรหม (พระพรหมเอราวัณ) แยกราชประสงค์ว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจสอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยการทำการค้าในบริเวณดังกล่าว พบผู้ค้าฝ่าฝืนทำการค้าในที่สาธารณะ จำนวน 3 ราย จึงแจ้งข้อกฎหมายให้ผู้ค้าได้รับทราบ พร้อมทำความเข้าใจผู้ค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและเชิญผู้ค้ามาเปรียบเทียบปรับฐานความผิดจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ในอัตราโทษสูงสุด เป็นเงิน 6,000 บาท ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบการตั้งวางจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวและประชาชนไม่ให้ซื้อสินค้าจากผู้ค้าหาบเร่ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจตราพื้นที่ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเทศกิจลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีของประเทศ