ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 วันนี้ (5 ก.ค.66) : นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตลาดกระบังแห่งใหม่
ตามที่สำนักการโยธา กทม. ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตลาดกระบังเป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น เพื่อให้บริการประชาชน มีรูปแบบที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ระยะเวลาดำเนินการ 900 วัน กำหนดแล้วเสร็จเดือน ส.ค. 66 แต่ปัจจุบันพบว่าโครงการมีความล่าช้า จึงขอสอบถามความคืบหน้าในการก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตลาดกระบังแห่งใหม่ ซึ่งช้ากว่าแผนงาน จึงสอบถามฝ่ายบริหารว่าการดำเนินโครงการมีความล่าช้าเนื่องจากปัญหา อุปสรรคใด กำหนดแล้วเสร็จเมื่อใด หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามสัญญากทม.จะมีมาตรการอย่างไร
รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวพบอุปสรรคจากการเข้าพื้นที่ล่าช้าเนื่องจากการรื้อถอนอาคารเดิมในพื้นที่ก่อสร้างและการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยสิ้นสุดสัญญาปีนี้ แต่เนื่องจากค่าปรับเป็นศูนย์ตามมาตรการรัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการช่วงโควิด 19 ถึงวันที่ 17 ธ.ค. 67 จึงได้หารือกับผู้ประกอบการและหน่วยงานเพื่อกำหนดแผนงานใหม่ และคาดว่าจะปรับแผนงานใหม่เป็น ก.ย.67 พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจรับงานให้มีความก้าวหน้าของงานไม่เกินงบประมาณที่เบิกจ่าย หากไม่แล้วเสร็จผู้รับเหมาจะต้องเสียค่าปรับให้กทม.ตามอัตราที่กำหนด ประมาณ 4 แสนบาทต่อวัน
ทั้งนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวให้ความเชื่อมั่นต่อที่ประชุมสภากทม.ว่า พื้นที่ลาดกระบังมี 3 โครงการใหญ่ที่กทม.ดำเนินการ ซึ่งจะพยายามลงไปกำกับให้อยู่ในกรอบเวลาให้มากที่สุด
—————