(3 ก.ค.66) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตสวนหลวง ประกอบด้วย

ติดตามการให้บริการประชาชนของฝ่ายทะเบียน ภายในศูนย์บริหารราชการ ฉับไวใสสะอาด (Bangkok Fast & Clear : BFC) เขตสวนหลวง ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สอบถามถึงระยะเวลาในการให้บริการประชาชนที่มาติดต่องานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน ตั้งแต่กดรับบัตรคิวจนเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำงาน ซึ่งควรใช้ระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ไม่รวมเวลารอคอย และขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนที่มารับบริการในแต่ละวัน ปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลให้งานบริการเกิดความล่าช้า ประสิทธิภาพของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งให้คำแนะนำและแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มารับบริการ จากนั้นได้ติดตามการใช้งานระบบสารสนเทศภาษีท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร (BMA-TAX) ในการจัดเก็บรายได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเข้าใช้งานในระบบ การบันทึกข้อมูลรายการภาษี การค้นหาและแก้ไขข้อมูลผู้เสียภาษี ศักยภาพของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอายุในการใช้งาน ประสิทธิภาพระบบเครือข่ายแบบใช้สายสัญญาณ (LAN) และแบบไร้สายสัญญาณ (WIFI) ซึ่งเขตฯ มีที่ดิน 47,851 แปลง สำรวจแล้ว 47,439 แปลง คงเหลือ 412 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 45,770 แห่ง สำรวจครบแล้ว ห้องชุด 38,419 ห้อง สำรวจครบแล้ว สรุปผลการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งสิ้น 132,040 รายการ สำรวจแล้ว 131,628 รายการ คงเหลือ 412 รายการ

พร้อมกันนี้ ได้สอบถามถึงการคัดแยกขยะภายในอาคารสำนักงานเขตสวนหลวง มีข้าราชการและบุคลากร 128 คน วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะรีไซเคิล แต่ละฝ่ายคัดแยกขยะรีไซเคิล แม่บ้านจัดเก็บรวบรวม นำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริม 2.ขยะอินทรีย์ ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ แจกถังคัดแยกเศษอาหารให้ทุกฝ่าย แม่บ้านจัดเก็บรวบรวมไว้จุดพักขยะด้านหลังอาคารสำนักงานเขต และให้เกษตรกรจัดเก็บนำไปเลี้ยงสัตว์ 3.ขยะอันตราย แต่ละฝ่ายคัดแยกขยะอันตราย แม่บ้านจัดเก็บรวบรวมไว้ที่จุดพักขยะด้านหลังอาคารสำนักงานเขต รถเข้าจัดเก็บทุกวันที่ 1 และ15 ของเดือน 4.ขยะทั่วไป แม่บ้านจัดเก็บในแต่ละฝ่าย รวบรวมไว้จุดพักขยะด้านลังอาคารสำนักงานเขต รถเข้าจัดเก็บทุกวัน สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 14,005 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 9,798 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 2,588 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 1,476 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 142 กิโลกรัม/เดือน

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ศูนย์การค้าธัญพาร์คศรีนครินทร์ พื้นที่ 58,000 ตารางเมตร ผู้มาใช้บริการ 750-1,500 คน/วัน เข้าร่วมโครงการการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2564 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ แม่บ้าน ร้านค้าจัดเก็บ รวบรวบไว้จุดขยะอินทรีย์ เกษตรกรมารับไปเลี้ยงสัตว์ 2.ขยะรีไซเคิล แม่บ้านจัดเก็บและรวบรวมจำหน่าย/บริจาค 3.ขยะทั่วไป แม่บ้าน/ร้านค้า จัดเก็บรวบรวบไว้ที่จุดรับขยะทั่วไป รอรถเขตฯ เข้าจัดเก็บ 4.ขยะอันตราย แม่บ้านจัดเก็บรวบรวมไว้ที่จุดรับขยะอันตราย รอรถเขตฯ เข้าจัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 9,100 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 7,250 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 400 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 1,410 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 40 กิโลกรัม/เดือน

สำรวจพื้นที่จัดทำสวน 15 นาที บริเวณซอยอ่อนนุช 46 พื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน 31 ตารางวา ซึ่งเป็นพื้นที่ทางสาธารณะ ลักษณะพื้นที่คล้ายด้ามขวาน โดยมีแนวคิดจะพัฒนาเป็นสวนน้ำ พร้อมทั้งจัดทำทางเดินวิ่งรอบบึง ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ประสานสำนักการโยธาและสำนักสิ่งแวดล้อม พิจารณาหาแนวทางปรับปรุงทางเข้าออก รวมถึงเข้าสำรวจพื้นที่และออกแบบสวน เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประโยชน์จากการใช้ที่ดินดังกล่าวต่อไป ที่ผ่านมาเขตฯ ได้จัดทำสวน 15 นาที จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหย่อมซอยพัฒนาการ 25 หรือสวนพัฒนาการไลค์พาร์ค พื้นที่ 864 ตารางวา 2. สวนหย่อมในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ถนนอ่อนนุช พื้นที่ 100 ตารางวา ซึ่งสวนทั้ง 2 แห่ง ดำเนินการปลูกต้นไม้และไม้ประดับเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอรับการสนับสนุนเก้าอี้ จากบริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปตั้งวางสำหรับนั่งพักผ่อนและทำกิจกรรม

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 บริษัท โออาร์ซี พรีเมียร์ จำกัด ถนนพัฒนาการ (ORC) ซึ่งประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการตรวจสอบเครื่องพ่นละอองน้ำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเปิดตลอดเวลาทำการ ปรับปรุงบ่อล้างทำความสะอาดล้อรถโม่ปูนก่อนออกจากแพลนท์ปูน ล้างทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบแพลนท์ปูน เพิ่มความสูงของรั้วด้านหลังให้มีความสูงไม่ต่ำกว่า 6 เมตร ปรับปรุงพื้นถนนที่ชำรุดเสียหาย รวมทั้งปรับปรุงบ่อพักและบ่อตกตะกอน พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ติดตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งเขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทสถานประกอบการ/โรงงาน ประเภทอู่ซ่อมและพ่นสีรถยนต์ ประเภทแพลนท์ปูน ประเภทสถานที่ก่อสร้าง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ป้องกันไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

ในการลงพื้นที่วันนี้มี นายประพาส เหลืองสิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตสวนหลวง สำนักสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#บริหารจัดการดี #สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี

—–  (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)